ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเกิดขึ้นมากมายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็น 1 ใน 11 ประเทศที่มีที่เติบโตเร็วที่สุด เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามา ผู้คนนิยมใช้ช้อปปิงออนไลน์ผ่านร้านค้าอีคอมเมิร์ซ เว็บไซต์ และโซเชียลอีคอมเมิร์ซ

คนไทยให้ความสนใจกับการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา จากการสำรวจในปี 2022 ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 54 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 16-64 ปี การมีฐานลูกค้าจำนวนมากเช่นนี้ทำให้แบรนด์อีคอมเมิร์ซต่างกระตือรือร้นที่จะก่อตั้งตัวเองในประเทศไทย

ในบทความนี้ เราจะมาพิจารณาอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย แนวโน้มทั่วไป และประชากรในประเทศไทยกัน 

เทรนด์ใหม่มาแรง เขย่าวงการอีคอมเมิร์ซใน 10 ข้างหน้า 

ผู้คนประมาณเกือบ 57 ล้านคน (คิดเป็น 82.4% ของประชากรทั้งหมด) ใช้อินเทอร์เน็ต และมีอัตราการเติบโตของอินเทอร์เน็ตต่อปีมากกว่า 11% ซึ่งหมายความว่าผู้คนมากกว่าครึ่งต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตและใช้งานทุกวัน ความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นเชื่อมโยงกับรูปแบบธุรกิจในภูมิภาค รูปแบบธุรกิจมี 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ 

Customer to Customer (C2C) – รูปแบบการขายสินค้าและบริการระหว่างลูกค้า ตัวอย่างทั่วไปเช่น eBay, Hipflat, Kaidee และอื่น ๆ อีกมากมาย

Business to Customers (B2C)– ธุรกิจรูปแบบนี้จะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในตลาดอีคอมเมิร์ซ ตัวอย่างทั่วไปเช่น Lazada, Shopee เป็นต้น 

Business to Business (B2B)–รูปแบบนี้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างสองบริษัท หน่วยงานหรือหน่วยงานที่แลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และบริการ ตัวอย่างเช่น Officemate ในประเทศไทย

เมื่อคุณได้วิเคราะห์โมเดลของธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือต้องระบุประเภทธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบในตลาดประเทศไทย:

    • มือถือและอิเล็กทรอนิกส์ – เป็นสินค้าอันดับหนึ่งที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศไทย ผู้บริโภคค่อนข้างสนใจที่จะซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ Lazada ถือเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 14.7 ล้านรายการบนเว็บไซต์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน 

    • Fashion & Lifestyle– คนไทยมีความใส่ใจในแฟชั่นมากและมีความสัมพันธ์กับแบรนด์ระดับโลก เช่น Adidas, H&M และแบรนด์อื่นๆ จะเห็นได้ว่ามีเว็บไซต์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada, Shopee, 11Street และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และ รองเท้า

    • ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามจากรายงานของ International Trade Administration สินค้ามาแรงในประเทศไทยคือสิค้าประเภทความสวย ความงาม พบว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (42%) ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม (15%) สบู่และสุขอนามัย (14%) ช่องปากและฟัน การดูแล (12%) และการแต่งหน้า (12%) 

ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเพิ่มขึ้น มีตลาดหลายประเภทสำหรับเปิดธุรกิจ หรือเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้ผ่านช่องทางการขายสินค้าดังต่อไปนี้ 

Lazada

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ที่มีฟีเจอร์หรือหมวดหมู่สินค้าให้เลือกมากมายบนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม ของชำ ของเล่น รถยนต์ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีครบครัน Lazada ครอบคลุมเกือบทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ จึงทำให้เป็นหนึ่งในตลาดที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย

Shopee

บริษัทข้ามชาติสัญชาติสิงคโปร์ มีรากฐานที่แข็งแรงในประเทศไทย เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่คนไทยนิยมใช้ มีหมวดหมู่ให้เลือกช้อปมากมา ทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดส่งของชำถึงหน้าประตูบ้าน

Jibสำหรับ

 

สำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยี Jip เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในราคาย่อมเยา ตลาดนี้มีไว้เอาใจเหล่านักช้อปที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่ต้องการซื้อแกดเจ็ตใหม่ๆ ทางออนไลน์

Power Buy

 

อีกหนึ่งมาร์เก็ตเพลสสุดคลาสสิกสำหรับเมืองไทย ผู้นำร้านค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย มีร้านค้ามากกว่า 90 แห่งในประเทศไทยและมีผู้เยี่ยมชม 1.5 ล้านคนทุกเดือน

พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทย 

นักช้อปออนไลน์ในประเทศไทยถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ Baby boomers (51-71), Gen X (37-50) และ Gen Y (17-36) คนช่วงอายุแรกจะมีส่วนร่วมในตลาดอีคอมเมิร์ซมากถึง 5.39% กลุ่มถัดมาคิดเป็น 32.69% และกลุ่มสุดท้ายมีส่วนร่วม 61.92% จะเห็นว่า Gen Y เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมกับตลาดอีคอมเมิร์ซมากที่สุด พวกเขาไม่ได้แค่เข้ามาซื้อของเพียงอย่างเดียว แต่ได้เข้ามาเป็นผู้ขายด้วยเช่นกัน เหตุผลที่ชัดเจนที่ผู้คนเข้าเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์อยู่บ่อยๆ มีดังนี้ 

    • ราคาถูก จ่ายไหว

    • มีของให้เลือกมากมาย

    • จัดส่งฟรี 

    • มีช่องทางการจ่ายเงินให้เลือกเยอะ

    • แอพพลิเคชั่นใช้ง่าย 

    • บริการลูกค้าดี 

อยากตีตลาดไทย ต้องรู้อะไรบ้าง 

สินค้ายอดนิยมในหมู่คนไทย มีอะไรบ้างไปดูกันเลย! 

1. โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค

2. Fashion & Lifestyle

3. ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความสวยความงาม  

คนไทยไม่ค่อยใช้บัตรเครดิตในการช้อปปิ้งออนไลน์สักเท่าไหร่ ผู้คนมักชอบชำระเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารหรือเก็บเงินปลายทาง (COD) มากกว่า ดังนั้น ดังนั้นหากร้านค้าของคุณรับแต่บัตรเคดิตหรือไม่มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ผู้คนก็อาจจะไม่ซื้อสินค้าร้านคุณนั่นเอง สรุปง่ายๆ คือผู้ประกอบการต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย และต้องมีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายด้วย 

ผู้ให้บริการขนส่งรายใหญ่ที่สุดและบริษัทขนส่งบุคคลที่สามในประเทศไทย

เนื่องจากอุตสาหกรรมนำเข้าและส่งออกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน บริษัทโลจิสติกส์ 3PL จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ยังเป็นเพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจและโลกาภิวัตน์ที่ต้องการการขนส่งสินค้าและบริการข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง บริษัทโลจิสติกส์ 3PL ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบางแห่งได้แก่-

    • CEVA Logistics- เป็นบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกที่ให้บริการโซลูชั่นการขนส่งและซัพพลายเชนสำหรับบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก CEVA มีบริการโลจิสติกส์ตามสัญญาและบริการจัดการการขนส่งสินค้าที่หลากหลาย มีรายได้รวม 56,000 ล้านดอลลาร์และกระจายอยู่ในกว่า 170 ประเทศ

    • Yusen Logistics- ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับโลกรายนี้ทำงานร่วมกับบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก บริการภายใต้บริษัทนี้รวมถึงโซลูชั่นซัพพลายเชน การขนส่งแบบครบวงจร โลจิสติกส์ตามสัญญา และโซลูชั่นดิจิทัล ปัจจุบันมีอยู่ใน 47 ประเทศ

    • DHL- ลงทะเบียน 3PL เพื่อรับอีกสักครั้งซึ่งผู้ให้บริการขนส่งก็ต้องการ เช่น การขนส่งที่อนุญาตการขนส่งเป้าหมายการขนส่งทางถนนและการขนส่งทางรถไฟมีอยู่ในกว่า 220 ประเทศที่เป็นบริษัท ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย จะประสบความเสร็จได้อย่างไร? 

เอาจริงๆ มันไม่มีข้อปฏิบัติที่ตายตัว ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ถึงแม้ว่าจะมีโซลูชั่นที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เรามีทริคเล็กๆ น้อยมาฝาก จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย! 

เราขอแตกกลยุทธ์ในการต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ประสบความเสร็จในประเทศไทยเป็น 4 ข้อดังต่อไปนี้   

    1. E-marketplace 

    1. Brand webstore 

    1. E-retailer

    1. Social media 

เปรียบเทียบการลงทุนในตลาด ความพยายามในการดำเนินงาน การควบคุมเชิงพาณิชย์ ฯลฯ ในแต่ละช่องทาง แล้วเลือกที่เหมาะกับความต้องการของคุณที่สุดจากนั้น สร้างกลยุทธ์ดิจิทัล เช่น การตลาดผ่านอีเมล โซเชียลมีเดีย การตลาดเนื้อหา และสิ่งอื่นๆ อีกมากมายเพื่อทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ แต่ละคนมีข้อดีข้อเสีย ข้อกำหนด และแผนการดำเนินการของตนเอง ดังนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดใด ๆ ที่คุณเลือกควรตรงกับประเภทและวัตถุประสงค์ของธุรกิจของคุณ

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องพิจารณาคือการทำให้ประสบการณ์ราบรื่นและราบรื่น สวมบทบาทเป็นลูกค้าเสมอ และดูว่าคุณต้องการอะไรหากคุณเป็นลูกค้า เว็บไซต์ที่เข้าใจได้ (หรือใช้งานง่าย) ตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย และการส่งมอบตรงเวลาคือสามเสาหลักที่ผู้ประกอบการทุกคนสามารถทำได้

การขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย 

หลายๆ ธุรกิจเกิดขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซ การขยายธุรกิจในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นจากคู่แข่งในตลอดก็คือ ตัวสินค้า การตีตลาดให้แตก การจัดการเรื่องคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ตลอดจนการหาแหล่งซัพพลายเออร์ในการผลิตสินค้าที่น่าเชื่อถือและคุ้มค่าแก่การลงทุนนั่งเอง  

Whoa! Hold on a second…

Effortlessly manage your inventory, automate order fulfillment, and scale your e-commerce business like never before. Ready to leap? Join the Locad family now! 

Don't miss out on the latest news!

Get the latest industry news, best practices, and product updates!

Exclusive benefits to ace your e-commerce game this 2023 with Locad’s desk calendar!