แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทย

ในแวดวงธุรกิจ เรียกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนเบอร์ต้นๆ เลยทีเดียว เนื่องจากมีบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเข้ามาตั้งกิจการในบ้านเราจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมมเมิร์ซ 

จากการสำรวจของ Global Web Index พบว่าประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 48.59 ล้านรายในเดือนมกราคม 2023

วันนี้ Locad Thailand ได้ลิสต์ช่องทางสำหรับขายสินค้ายิดนิยม ทั้งที่หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักและเคยใช้งานอยู่แล้ว และแพลตฟอร์มที่คุณอาจจะยังไม่เคยสัมผัส มาเริ่มกันเลย! 

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์มยอดนิยม 

ก่อนอื่นเราขอแนะนำให้ศึกษาข้อดีและข้อเสีย สิ่งที่คุณจะได้รับ และการใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์ม เลือกอันที่เชื่อถือได้

Lazada Thailand

Lazada หรือ ลาซาด้า เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีกิจการอยู่ 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

แพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาและค่อนข้างมีชื่อเสียง ลาซาด้าก่อตั้งขึ้นในปี 2012 มีผู้ขายทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 1,45,000 ราย จากนั้นหลังจากที่ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ความนิยมของเจ้าเเพลตฟอรืมนี้ก็เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ มีลูกค้ามากถึง 560 ล้านราย และแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาค้าขายมากถึง 3,000 แห่ง ทำให้ตลาดแห่งนี้ดึงดูดใจผู้คนทั้งผู้ขายและผู้ซื้อได้มากขึ้นไปอีก 

Shopee Thailand

Shopee หรือที่พวกเราเรียกกันว่า แอพส้ม ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ต่อมาได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และนั่งแท่นเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์สยอดนิยมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ปีแรกหลังจากก่อตั้งกิจการ Shopee สร้างรายได้ได้มากถึง 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีผู้เยี่ยมชมไซต์ประมาณ 51.24 ล้านคนต่อเดือน นอกจากนี้ยังขยายธุรกิจไปตีตลาดไต้หวัน อินโดนีเซีย เม็กซิโกและบราซิล 

JIB

JIB เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีอิทธิพลในประเทศไทย มีผู้เข้าชมมากกว่า 2.6 ล้านรายต่อเดือน ภายในเว็บไซต์ก็จะขายสินค้าไอทีต่างๆ เช่น แล็ปท็อป เดสก์ท็อปพีซี และอุปการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

ในขณะที่ Lazada และ Shopee สามารถเข้าถึงได้ในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่รายได้ทั้งหมดของ JIB มาจากประเทศไทยล้วนๆ 

เว็บไซต์ของ JIB จะคล้ายกับ Lazada แต่มีสินค้าให้เลือกน้อยกว่า แต่ทางแพลตฟอร์มก็มีลูกเล่นและมอบสิทธิประโยชน์ให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเช่นเดียวกับปพลตฟอร์มอื่น แต่จะมากมายเพียงใด อาจจะต้องไปลงรายละเอียดกันอีกที 

JIB เจาะตลาดในประเทศไทยซะมากกว่า ไม่ได้เป็นแพตลฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ 

Chilindo

เว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประมูลสินค้าและจ่ายในราคาที่ดีที่สุด สินค้าที่วางขายได้แก่ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ บ้านและสวน ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก เทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา การดูแลสุขภาพ และเครื่องสำอาง เป็นต้น 

Power Buy

แต่ก่อน Power Buy เป็นเพียงแค่แผนกหนึ่งในเครือ Central Group เริ่มต้นจากการเป็นเครือข่ายร้านค้าที่เน้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ในบ้านในประเทศไทยในปี 1996 

จากนั้นก็ค่อยๆ แตกสาขาย่อย 90 แห่งทั่วประเทศไทย และก็ได้เปิดแพตฟอร์มออนไลน์เพื่อเอาใจเหล่านักช้อปยุคใหม่ในปี 2015 เนื่องผู้คนนิยมช้อปปิ้งออนไลน์มากกว่าหน้าร้าน ทางบริษัทจึงค่อยๆ ลดการขายของร้านค้าจากประมาณ 4,000 ตร.ม. เป็น 300-400 ตร.ม. และไปโฟกัสด้านออนไลน์มากยิ่งขึ้น 

Advice

อีกหนึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีร้านค้าเกือบ 350 แห่งในประเทศไทยและลาว เป็นหนึ่งในผู้ค้าส่งผลิตภัณฑ์ไอทีและสมาร์ทโฟนชั้นนำ

Central

หลายๆ คนต้องคุ้นเคยกับห้างดังแห่งนี้ ณ ปัจจุบัน Central ได้มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นของตัวเองเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สินค้าที่วางขายในระบบออนไลน์ก็ใกล้เคียงกับในห้างนั้นแหละ เช่น  แฟชั่น เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย 

JD Central

คนไทยเป็นเจ้สของแพลตฟอร์มนี้ JD Central เป็นการร่วมมือระหว่าง Jingdong และ Central Group ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 783 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 25.6 พันล้านบาท 

แพลตฟอร์มนี้มีชื่อเสียงจากแคมเปญมากมายและบริการจัดส่งที่มีคุณภาพ สินค้าที่วางจำหน่ายได้แก่ เครื่องแต่งกาย อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและอาหารเสริม เป็นต้น

AliExpress

AliExpress อยู่ในเครือเดียวกับอาลีบาบา เป็นคู่แข่งของ Lazada และ Amazon ซึ่งจะขายสินค้าหลายประเภท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก แฟชั่น สุขภาพและความงาม นาฬิกา ของตกแต่งบ้าน อุปการณ์กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง ผลิตภัณพ์สำหรับรถยนต์ ของตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 

ภายในเว็บไซต์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกภาษาที่จนเองถนัดได้ มีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และภาษาอื่นๆ โดยเฉพาะ 

เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยก็เติบโตเป็นอันดับต้น ๆ ในการขายหนังสือ วารสาร และสินค้าแปลกใหม่อื่น ๆ ในหลายประเภท

HomePro

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์เฟื่องฟู จาดขนาดตลาดที่มีมูลค่าอยู่ที่ 26.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 เพิ่มขึ้นไปที่ 258 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปี 2018 อุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตอย่างมากHomePro มีหลายสาขาในประเทศไทย ซึ่งในปี 1995 ก็ได้มีเว็บไซต์ให้คนเข้าไปช้อปปิ้งสินค้าจำพวก เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ เครื่องมือ ของใช้ครัวเรือน ซึ่งมีรายได้รับการเข้าชมเฉลี่ย 1.2 ล้านครั้งต่อเดือน

Best for Sales Features แล้วอันไหนดีที่สุด?

Lazada หนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าของคือบริษัทระดับนานาชาติอย่างอาลีบาบา กรุ๊ป (ตลาดนี้เริ่มต้นโดย Rocket Internet ในปี 2012 และสุดท้ายก็ถูกซื้อโดย Alibaba) 

จำหน่ายสินค้ามากมายส่งตรงจากคลังสินค้าในกรุงเทพฯ มีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและทันสมัย มีผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยี แฟชั่น ของใช้ในบ้าน เด็ก สุขภาพและความงาม ยานพาหนะ กีฬา และการท่องเที่ยว เป็นต้น 

ลูกค้าชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เงินสดหลังได้รับสินค้า, บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต, Paypal, จ่ายเงินสดที่เคาน์เตอร์, เอทีเอ็ม, LINE, ผ่อนชำระ K-Bank และอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง นอกจากนี้ยังให้บริการจัดส่งที่รวดเร็ว ได้มาตรฐาน และประหยัดอีกด้วย

แล้วทำไมต้องเป็น Lazada ด้วยหล่ะ มาดูประโยชน์สำหรับผู้ขายบนแพลตฟอร์มนี้กัน 

• เป็นเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย
• มีสินค้าให้ช้อปปิ้งมากกว่าพันรายการ
• เป็นผู้ค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดที่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด
• แบรนด์ธไทยหลายพันรายขายสินค้าบน Lazada 
• รับชำระเงินปลายทาง (COD), MasterCard, Visa, JCB และ PayPal
• มีภาษาไทยและภาษาอังกฤษรองรับ
• มักจะมีการจัดส่งฟรี และจัดส่งทางไปรษณีย์มีราคาไม่แพงนัก

Best for SEO and marketing

Lazada VS การทำการตลาดด้วย SEO 

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า SEO คืออะไร มันย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นวิธีการตกแต่ง

เว็บไซต์และสร้างหรือปรับปรุงเนื้อหา และเพิ่มลิงค์เชื่อมไปหน้าเว็บไซต์หนึ่งไปอีกหน้าเนื้อหาหนึ่งที่เกี่ยวข้อง

 พร้อมทั้งเก็บรวบรวมคำค้นหา (Keywords) ที่มาการใช้บนเครื่องมือค้นหา (Search Engine) อย่าง Google เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์นั่นเอง ดังนั้นคุณจะต้องค้นหา Keywords ยอดนิยมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

Lazada เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มการช้อปปิ้งออนไลน์ให้กลายเป็นที่นิยมในประเทศไทย ผู้คนชื่นชอบแพลตฟอร์มนี้เนื่องจากภายในแพลตฟอร์มมีสินค้าให้เลือกมากมาย

Best for Multichannel Selling

Lazada เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมกับการขายสินค้าหลายๆ ช่องทาง  

นอกจากจะมีการเปิดโฉมใหม่ของ Lazada ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว Lazada ยังมีโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์แบบหลายช่องทาง หรือที่เรียกว่า Multichannel Logistic (MCL) อีกด้วย มีระบบการจัดการสินค้า เก็บ แพ็ค และจัดส่งที่มี

ประสิทธิภาพ 

Best Value for Money

ทั้ง Lazada และ Shopee จะมีข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้า Shopee จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าแพลตฟอร์มคู่แข่ง เนื่องจากผู้ค้า Shopee จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับตัวแพลตฟอร์มเพียงเล็กน้อยจึงสามารถลดราคาได้ โดยเฉพาะสินค้าจำพวก กระเป๋า เสื้อ และของเล่น ซึ่งนำมาขายในราคาที่เป็นมิตร ไม่แพง 

Best for Ease of Use

แพลตฟอร์ม Lazada ใช้งานง่าย 

Lazada และ Shopee เป็นแพลตฟอร์มช้อปปิงค์ออนไลน์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ใช้งานง่ายทั้งคู่ มีตัวกรองข้อมูลที่ช่วยให้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าค้นหาสินค้าที่ตนเองต้องการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นตาม เลทราคา ยี่ห้อง สี การให้คะแนน ขนาด และอื่นๆ  

นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการความช่วยเหลือกับผู้ใช้งาน หากลูกค้าต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัยสามารถเข้าไปยังฟีเจอร์แชท และสื่อสารกับแอดมินของร้านค้าโดยตรงได้