Social Commerce เป็นคำที่ผสมผสานระหว่าง Social media และ E-commerce ซึ่งหมายถึงการค้าขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียนั่นเอง ถึงแม้ว่าโซเชียลมีเดียไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจต่างๆ ผดดยเฉพาะตั้งแต่ต้น แต่ปัจจุบันหลายๆ แพลตฟอร์มก็ไดเพัฒนาเครื่องมือเพื่อสนับสนุนผู้ขายและผูซื้อ ให้การค้าขายและการช้อปปิ้งในระบบอีคอมเมิร์ซของพวกเขาเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างก็เปรียบเสมือน “หน้าธุรกิจ” ที่สามารถพาลูกค้าไปสู่เว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดและการทำโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนๆ สามารถทำคอนเทนต์หลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ ข้อความ ลิงค์ และการไลฟ์สดแบบเรียลไทม์ คุณโต้ตอบกับผู้เข้าชมได้
ด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี ตอนนี้ Facebook และ Instagram ได้กลายเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการขายของออนไลน์ เหตุผลง่ายๆ เลยก็เพราะว่าทั้งสองแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
แต่ในเวลานี้ แพลตฟอร์มที่มาแรงแซงทางโค้งและเป็นกระแสอยู่ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก TikTok ซึ่งเป็นช่องทางการแชร์วิดีโอเพื่อความบันเทิงแบบสั้นๆ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบเพื่อสนับสนุกการค้าขายและการช้อปปิ้งอีกด้วย
ก่อนอื่นเรามีสาระน่ารู้เกี่ยวกับ TikTok มาฝาก จะไปอะไรบ้าง ไปลุยกันเลย!
บริษัทแม่ของ TikTok ชื่อว่า ByteDance เป็นบริษัทสัญชาติจีน Tiktok ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 ภายใต้ชื่อ “Douyin” เอกลักษณ์ของการทำคอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มนี้ คือถ่ายวีดีโอสั้นๆ เพียงแค่ 15 วินาที – 10 นาที โดยมีเนื้อหาเช่น การแสดงตลก การแสดงผาดโผน ร้องเพลง เต้นและความบันเทิงโดยทั่วไป
ชื่อเดิมของ Tiktok นั้นคือ Douyin เปิดตัวแอพพิเคชั่นที่พร้อมใช้งานทั้งในระบบ IOS Android ทั่วโลก แต่ที่เวอร์ชั่นที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้เปิดตัวในปี 2018 ปัจจุบันนี้ Tiktok เป็นเเพลตฟอร์มวิดีโอที่มากกว่าความบันเทิง มีผู้ใช้งานมากกว่า1 พันล้านคน เมื่อปี 2021 ยอดดาวน์โหลดแอป 383 ล้านครั้ง และในปี 2022 ยอดดาวน์โหลดนั้นพุ่งสูงถึง 3 พันล้านครั้งเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมาช้ากว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ บอกเรียกได้ว่าเเรงแซงทางโค้ง ตอนนี้ Tiktok ได้แซงหน้าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นๆ ไปแล้ว
ในแง่ของการมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ หรือที่เราเรียกว่า engagement ไม่ว่าจะเป็น การกดไลค์ กดแชร์ และพูดคุยผ่านคอมเมนต์ TikTok ได้รับการยกย่องว่าเป็น “โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ผู้คนมีส่วนร่วมมากที่สุด” ซึ่งความยาวของวิดีโอเฉลี่ยอยู่ที่ 10.85 นาที ในปี 2019 ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ได้ผู้คนใช้เวลาบน Tiktok ว่าเวลาที่ใช้กับ TikTok นั้นสูงถึง 68 พันล้านชั่วโมง
ด้วยรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ทำให้ Tiktok เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก วิดีโอที่คนนิยมอย่างแพร่หลายมักจะตลก มีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ บางวิดีโอก็เป็นอะไรที่แปลกในสายตาผู้ชม หรือเป็นเรื่องของความขัดแย้ง เป็นต้น วันนี้ LOCAD Thailand ขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับการค้าขายออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน!
ข้อเสียของการขายของบน Tiktok
การขายของบน Tiktok นั้นมีข้อดีมากมายแต่ก็ยังหนีไม่พ้นข้อจำกัด วิดีโอสั้นๆ มีทั้งข้อดีและข้อด้อยในเวลาเดียวกัน ผู้ขายบางคนต้องการสร้างวิดีโอที่มีความยาวมากกว่า 10 นาที ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการสื่อสารของพวกเขา
Tiktok ไม่ได้ให้ซื้อขายในแอป จนถึงปัจจุบันลูกค้าก็ยังซื้อสินค้าผ่าน TikTok Shop โดยตรงได้ แต่คาดว่าก็อาจจะมีการพัฒนาแอปลูกเล่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเอาใจและส่งเสริมการค้าขายและการช้อปปิ้งในระบบอีคอมเมิร์ซในไม่ช้า
ในแง่ของข้อมูลประชากร มีรายงานว่า TikTok ส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มวัยรุ่น Generation Z แต่ยังก็ใช้งานง่าย รวมทั้งระยะเวลาในการชมวิดีโอสั้น กระชับ เหมาะกับคนวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น ผู้คนในสหรัฐอเมริกากลุ่ม Gen Z ที่ใช้งาน Tiktok มีจำนวนมากกว่า 47% ซึ่งจะอายุระหว่าง 10-29 ปี มีผู้ใช้งานผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 2:1 โดยเฉลี่ยแล้วในเดือนมีนาคม 2020 ชาวอเมริกันใช้เวลาบน Tiktok ประมาณ 1.43 พันล้านชั่วโมง และคาดว่าตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี 2021 และ 2022
มากันที่ทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กันบ้าง Tiktok ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและไม่มีที่สิ้นสุด และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 360 ล้านครั้งในปี 2020 เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรในภูมิภาคนี้ประมาณ 658 ล้านคน พบว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขายของออนไลน์ที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
ล่าสุดในปีนี้ Tiktok Shop ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นเอาใจคนทำธุรกิจออนไลน์ได้เปิดตัวที่ที่ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว
การเปิดร้านค้าบน TikTok เป็นการเปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้ขาย ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ มีชื่อเสียงหรือไม่มีก็ตาม คุณสามารถเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มนี้ได้ทั้งนั้น ซึ่ง Tiktok Shop มีเป้าหมายที่จะส่งมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สดใหม่ให้กับผู้ใช้และเพิ่มโอกาสให้ครีเอเตอร์ทั้งหลายด้วย
เมื่อคุณเปิดบัญชีร้านค้า TikTok Shop จะไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นใดๆ และค่าธรรมเนียมบริการชำระเงินจำกัดไว้ที่ 1% สำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการชำระเงิน
แล้วคุณจะ”ขาย” ได้อย่างไร? ข้อจำกัดของการทำวีดีโอบน Tiktok นั้นคือระยะเวลาของวีดีโอ ครีเอเตอร์สามารถใช้ทำคอนเทนต์เพื่อขายสินค้าของตนเองได้ และยังมอบบัตรกำนัลให้กับผู้ขายและส่วนลดสำหรับผลูกค้าที่มาซื้อสินค้าครั้งแรก
เนื่องจาก TikTok ถูกจำกัดไว้สำหรับวิดีโอขนาดสั้น ผู้สร้างเนื้อหาจึงสามารถใช้ฟีด เนื้อหา หรือสตรีมสดเพื่อขายผลิตภัณฑ์ของตนได้ เมื่อเปิดตัว TikTok ยังเสนอบัตรกำนัลสำหรับผู้ขายและส่วนลดสำหรับผู้ซื้อครั้งแรก
เปิดประสบการณ์ Fulfillment กับ Locad ได้แล้ววันนี้!
ข้อดีของการขายของบน Tiktok
คอนเทนต์ของคุณสามารถ Going viral ได้ เนื่องจากอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มที่แสดงคอนเทนต์ต่างๆ ให้กับบัญชีผู้ใช้อื่นๆ ที่อาจจะมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต เรียกได้ว่าเป็นข้อแตกต่างของ Tiktok กับโซเชียลมีเดีลแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องหาผู้ติดตามให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อทำให้คอนเทนต์ที่คุณสร้างต้องกระจายไปในวงกว้าง
TikTok จะแสดงคอนเทนต์ต่อบัญชีอื่นตามกลุ่มเป้าหมายของผู้ขาย เรียกไว้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับพ่อค้าแม่ขายออนไลน์เลยก็ว่าได้ ผลิตภัณฑ์ของคุณก็จะ “เข้าถึง” ผู้ใช้หรือบัญชีที่มีความสนใจในกลุ่มสินค้าที่คล้ายคลึงกัน เอาหล่ะทีนี้คุณก็สามารถค้าขายอย่างมั่นใจได้แล้ว !
สามารถเชื่อมโยงไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ นี่ก็เป็นข้อดีอีกประการหนึ่งของการขายของบน TikTok Shop หากคุณมีหน้าเว็บไซต์ หรือลิงค์ที่โยงไปหาแพลตฟอร์มร้านค้าของคุณได้ ให้ใส่ลิงก์ไปยังร้านค้าออนไลน์ได้เลย นอกจากนั้นคุณก็ยังสามารถขายของผ่านไลฟ์สดบน TikTok ได้เลย