การโฆษณาสินค้าในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากสมัยก่อนค่อนข้างมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce marketplaces) พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงจำเป็นต้องเรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อจะสื่อสารได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณคืออะไร มีความสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างไร และมีความคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
กุญแจสู่ธุรกิจที่มั่งคงและยืนยาว คือการปรับปรุงธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอ และ Lazada ก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถขยายการมองเห็นไปสู่วงกว้าง และเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า ในฐานะเจ้าของธุรกิจ มันอาจจะต้องใช้เวลาพัฒนาไปเรื่อยๆ
เช่น ทำโฆษณาและตกแต่งหน้าร้านบน Lazada ให้สวยงามและดึงดูดสายตาลูกค้า รวมทั้ง คุณอาจจะต้องลงทุนสักนิดสักหน่อยให้กับเครื่องมือบนแพลตฟอร์มนี้ ที่จะมาเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณนั่นเอง
และใครที่อยากจะเพิ่มการมองเห็นให้กับร้านค้าและสินค้าของตนเอง มาทางนี้เลย ในบทความนี้ LOCAD Thailand จะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติสำหรับการลงรายการสินค้าบนแพลตฟอร์ม Lazada เอาใจพ่อค้าแม่ขาย และเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทุกๆ ท่านโดยเฉพาะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!
ความรู้พื้นฐานของการลงขายสินค้าบน Lazada
ในส่วนนี้ สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ก็คือ จะลงรายการสินค้าอย่างไรให้ปัง เหมาะสม ให้ประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าคุณ? มาเริ่มกันเลย!
ตกแต่งหน้าโปรไฟล์ของคุณ
มาเริ่มกันที่ “หน้าโปร์ไฟล์” ของคุณก่อนเป็นอันดับแรก มันจะเหมือนของคนอื่นไม่ได้ จริงไหม? คุณควรจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและปรับแต่งบางสิ่งบางอย่าง ซึ่ง Lazada มีเทมเพลตและขนาด(Template) มากมายให้คุณได้เลือกใช้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น…
- เทมเพลตทั่วไป (Daily template)
- เทรมเพลต Banner แบบง่ายๆ (Simple Banner template)
- เทมเพลตที่พึ่งมาใหม่ (New Arrival template)
- เทมเพลตขายดี (Best Seller template)
- เทมเพลตเกี่ยวกับการตลาด (Best Seller template)
ดูซิ! การออกแบบหน้าร้านของคุณโดดเด่นและมีความเป็นมืออาชีพเพียงพอหรือยัง? เบื้องต้นเราขอแนะนำให้ ลองจัดวางร้านค้าให้ดูสะอาดตา เรียบแต่โก้ และแฝงเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าให้คลิกเข้าไปชมสินค้าของคุณ
กำหนดขอบเขตของสินค้าและการโฆษณาสินค้า
ในการขายสินค้า การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นสำคัญ เมื่อลูกค้าเข้ามาชมสินค้าของคุณ พวกเขาคงจะต้องการเห็นสินค้าชัดเจน และมีรายละเอียดบ่งบอกว่าคุณขายอะไร รวมทั้งมีการจัดหน้าร้านที่ให้ความมั่นใจในธุรกิจของคุณ แน่นอนว่าคุณขายสินค้าได้หลายประเภท แต่ก็ต้องมีความรอบคอบในการเลือกสินค้า คุณต้องกำหนดกลุ่ม
ลูกค้าเป้าหมายของสินค้านั้นๆ ไม่ว่าเป็น เครื่องประดับ อุปกรณ์เสริมในรถยนต์ เครื่องสำอาง เทคโนโลยี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากนั้นให้คุณวิเคราะห์ตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ หรือที่เรียกกันว่า Positioning นั้นเอง ลองดูซิ ว่าสินค้าของคุณอยู่ในตำแหน่งใด เช่น ระดับพรีเมียม ระดับไฮเอนด์ ระดับกลาง หรือราคาไม่แพง ทีนี้คุณก็จะวางแผนการสื่อสารถูกต้องตามกลุ่มลูกค้าและมีประสิทธิภาพ
เปิดประสบการณ์ Fulfillment กับ Locad ได้แล้ววันนี้!
เลือกรูปแสดงสินค้าให้ปัง ต้องเลือกอย่างไร?
ในการเลือกณุปแสดงสินค้าบนแพลตฟอร์ม ให้เราคิดซะว่าเราเป็นลูกค้า และลองพิจารณารูปที่ถ่ายมาว่า ถ้าเราเป็นลูกค้ารูปไหนดึงดูดให้ซื้อสินค้ามากที่สุด ให้ตระหนักอยู่เสมอว่า รูปที่เลือกมาจะต้องสื่อถึงประโยชน์และคุณสมบัติของสินค้านั้นๆ ด้วย จะเอารูปมาจาก Google Image มันก็ยังไงๆ อยู่
ภาพที่เลือกมาแสดงสินค้าบน Lazada จะต้องดูดีและมีหลากหลายมุมมอง มีทั้งภาพตัวผลิตภัณฑ์ และภาพการใช้ผลิตภัณฑ์โดยคนจริง จากนั้นอัปโหลดภาพด้วยความละเอียดสูง เพื่อให้ลูกค้าซูมเข้าและออกเพื่อชมคุณสมบัติ คุณภาพ และรายละเอียดต่างๆ ของสินค้าได้ นอกจากนี้แนะนำให้คุณทำภาพอินโฟกราฟิกสำหรับคำถามที่พบบ่อยๆ เช่น ขนาด ข้อมูลจำเพาะ และคุณลักษณะอื่นๆ ไว้ใช้สื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจตรงกันโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องส่งข้อความมาถามผ่านแชท
คิดคำอธิบายสินค้าให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และน่าสนใจ
เขียนคำอธิบายสินค้าให้กระชับ ได้ใจความและดึงดูดลูกค้า ซึ่งควรมีรายเลียดดังต่อไปนี้ประกอบไปด้วย เช่น ชื่อสินค้า หมวดหมู่สินค้า คำบรรยายสินค้าสั้นๆของผลิตภัณฑ์ พร้อทระบุราคาสินค้าด้วย
การตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ –คุณควรค้นหาคำศัพท์ต่างๆ ลิสต์ไว้เป็นตัวเลือก และตรวจสอบการอ่านที่ถูกต้อง ชื่อสินค้าควรตั้งให้ กระชับ มีความหมาย เชื่อมโยงกับตัวผลิตภัณฑ์ มีความชัดเจนและดึงดูด ให้ผู้ซื้อคลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
การใช้คำอธิบายสินค้าสั้นๆ – จุดประสงค์หลักของคำอธิบายสั้น ๆ คือเปลี่ยนจากผู้ใช้งานแพลตฟอร์มให้เป็นผู้ซื้อใช้จริง เราขอแนะนำให้คุณร่าง 4-8 หัวข้อย่อยที่สรุปคุณลักษณะและประโยชน์ของสินค้า โดยคำนึงถึง Keywords ที่คาดว่านักช้อปจะใช้เพื่อค้นหาสินค้าประเภทเดียวกับที่ร้านคุณกำลังขายอยู่
คำอธิบายสินค้า – ลูกค้าบางคนก็ยากที่จะโน้มน้าวใจ ดังนั้นการมีคำอธิบายสินค้าจึงตอบโจทย์ ซึ่งลูกค้าสามารถเห็นได้ที่หน้ารายละเอียดสินค้า
คุณสามารถเขียนคำอธิบายยาวๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น คุณประโยชน์ หรือข้อดีของสินค้า แถมยังเพิ่มรูปภาพและกราฟิกในหน้านี้ เพื่อให้คุณขายสินค้าทางดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Lazada มีเครื่องมือที่เรียกว่า Lorikeet ให้คุณสร้างและปรับแต่งหน้านี้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด HTML แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ของคุณมีความชัดเจน ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงคำที่มีความหมายติดลบ หรือลดคุณค่าของสินค้าและแบรนด์ของคุณ
หมวดหมู่สินค้า – รู้จักสินค้าของตัวเองก็สำคัญอีกเช่นกัน เพื่อความเป็นระเบียบเมื่อลูกค้าเข้าชมร้านค้าของคุณ จัดสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ สินค้าประเภทเดียวกันก็จะอยู่ในหน้าเดียวกัน ข้อดีคือลูกค้าสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายๆ และรวดเร็ว และได้เห็นตัวเลือกมากมายในสินค้าหมวดเดียวกันกับที่พวกเขาต้องการ
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) จะช่วยให้การโปรโมทสินค้าของคุณมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเห็นได้จากคำอภาพแสดงสินค้าที่ใช้ ไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ตั้งราคาให้เหมาะสม
การกำหนดราคา จุดประกายสินค้าให้ปัง หรือ ดับได้ทั้งนั้น ดังนั้นต้องพิจารณาการกำหนดราคาสินค้าให้ดี แน่นอนคุณจะต้องคำนวณต้นทุน และกำไร แต่อย่าลืมคิดค่าคอมมิชชั่นของ Lazada เข้าไปด้วยหล่ะ ซึ่งอัตราก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และต้องตรวจสอบค่าธรรมเนียมการจัดส่งและภาษี หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ให้รอบคอบ
เราได้รวบรวามคำแนะนำในการกำหนดราคาสินค้าจาก Lazada University ที่เป็นประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกท่าน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
- ไม่ควรตั้งราคาเกินราคาจริง หมายถึงเกินจากมาตรฐานของสินค้า และให้จำไว้ว่า ความสะดวกและกำลังจ่ายของลูกค้านั้นสำคัญที่สุดในตลาดออนไลน์
- ตั้งราคาราคาที่น่าดึงดูดและเหมาะสม อย่าหลอกหลวงลูกค้า โดยการตั้งราคาสูงๆ และมาแจกโปรโมชั่นลดราคา
- ศึกษาคู่แข่งของคุณ เปรียบเทียบราคาของพวกเขาและคุณ โดยปกติ ราคาที่สูงกว่าราคาเฉลี่ยของสินที่ความคล้ายคลึงกันมักจะสูญเสียลูกค้า แต่ถ้าหาตั้งราคาต่ำมาก ก็อาจจะทำให้ลูกค้าไม่เชื่อถือในสินค้าของคุณ พวกเขาอาจจะมองมองสินค้าของคุณคุณภาพต่ำ
ฟีเจอร์ของ Lazada ที่คุณใช้เพื่อเพิ่มยอดขายได้
ตอนนี้ เมื่อคุณปรับรายการผลิตภัณฑ์ของคุณให้เหมาะสมแล้ว พร้อลุยต่อได้เลย! Lazada มีเครื่องมือทางการตลาดที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้
Sponsored Ads: Lazada Seller Center มีโซลูชันที่หลากหลายเพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับสินค้าของคุณ
- Search Ads – การใช้โฆษณาในรูปแบบนี้จะทำให้สินค้าของคุณเข้าสู่หน้าค้นหา เมื่อลูกค้าค้นหาสินค้าที่เฉพาะเจาะจง โฆษณาเหล่านี้ใช้รูปแบบต้นทุนต่อคลิก (Cost-Per-Click) ซึ่งเป็นการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ขาย
- Product Ads –เป็นโฆษณาในรูปแบบ CPC ซึ่งคุณสามารถทำให้สินค้าของคุณเข้าสู่หน้าของคู่แข่งได้ เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกประกอบการตัดสินใจของลูกค้า
- โฆษณาแบบดิสเพลย์ –โฆษณาในรูปแบบนี้ อาจทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบ ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง ( Cost-Per-Mille) ซึ่งอิงตามจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาออกไป (Ad impression) มากกว่าการคลิก อย่างไรก็ตาม การได้ทำการตลาดผ่าน Lazada จะช่วยเพิ่มการมองเห็นและยอดขายของธุรกิจคุณ
Affiliate Programs– คุณยังสามารถลองใช้โปรแกรมนี้ได้ โดยที่ Lazada ดึงคุณร่วมกับพาร์ทเนอร์กว่า 3,000 รายเพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชมหน้าของคุณผ่านลิงก์ที่ไม่ซ้ำใคร
Flexi Combo – มีประโยชน์เมื่อคุณมีผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันและ/หรือผลิตภัณฑ์เสริมที่คุณต้องการขาย ฟีเจอร์นี้ให้คุณรวมผลิตภัณฑ์หลายรายการในราคาเดียวได้ในระยะเวลาจำกัด และลูกค้าก็ชื่นชอบความสะดวกและมูลค่าเพิ่มนั้น คอมโบนั้นคล้ายกับฟีเจอร์ข้อเสนอของบันเดิล ซึ่งไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นเวอร์ชันระยะยาวมากกว่า เมื่อซื้อเป็นชุด ลูกค้าจะได้รับส่วนลดหรือรายการฟรีอื่นๆ เมื่อคุณใช้คุณสมบัตินี้
บัตรกำนัลผู้ขาย – บัตรกำนัลผู้ขายนั้นเหมือนกับบัตรกำนัล Lazada แจกให้กับผู้ซื้อนั่นแหละ แต่ความแตกต่างอย่างเดียวคือบัตรกำนัลผู้ขายมาจากผู้ขายเอง และพวกเขามีอำนาจควบคุมในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะใช้บัตรกำนัล
โปรโมชันจัดส่งฟรี – หากคุณมีงบประมาณเพียงพอที่จะจัดโปรโมชันเพิ่มเติม คุณก็แค่สร้างโปรโมชันจัดส่งฟรีขั้นมาก็ได้ ข้อดีของมันก็คือ ระยะเวลาโปรโมชั่นขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณ กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป และบริษัทขนส่ง
ซึ่งการจัดส่งฟรีได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถแปลงผู้ชมจำนวนมากให้เป็นผู้ซื้อได้
Seller Picks – หรือสินค้าแนะนำนั่นเอง มีเป็นฟีเจอร์ฟรีที่จะช่วยให้คุณบูสโพสต์เพื่อเพิ่มการมองเห็นของตัวสินค้านั่นเอง แต่ก็มีเกณฑ์บางประการที่คุณจะต้องปฏิบัติตาม
- เพื่อให้ได้อย่างน้อย 70% Good Rating
- มีสินค้ามากกว่า 3 SKU
- มีอัตราการตอบกลับการแชทอย่างน้อย 85% และ leverage voucher, bundle, or combo.
เชื่อในสัญชาตญาณของตนเอง และพร้อมลุย!
จากบทความข้างต้น เราก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการลงขายสินค้าใน Lazada อย่างไรก็ตาม Locad Thailand ขอเป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ขาย และนักธุรกิจออนไลน์ทุกๆ ท่านเชื่อในสัญชาตญาณของตนเอง พร้อมลุยไปกับมัน ค่อยเป็นค่อยไป เลือกเครื่องมือให้เหมาะสม พยายามหากลยุทธ์ อัพเดทเมตริก และหาช่วงทางการขาย เพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจของคุณ เอาล่ะ เรารอดูความสำเร็จของคุณอยู่!