เพื่อให้จัดการคำสั่งซื้อได้อยู่หมัดและเร็วขึ้น ความสม่ำเสนอการดำเนินงานภายในคลังสินค้านั้นสำคัญ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายเกี่ยวกับคลังสินค้าและโลจิสติกส์ให้เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น หรือระบบจัดการออเดอร์แบบดิจิทัล คุณสามารถนำมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้า แถมยังช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย
ในปัจจุบันคลังสินค้าต่างๆ ยังไม่ได้ดำเนินงานแบบอัตโนมัติ 100% ยังคงต้องใช้แรงงานอยู่ แต่ก็มีระบบคลังสินค้ารูปแบบใหม่ๆ เข้ามา เป็นระบบคลังสินค้าแบบอัตโนมัติที่เรียกว่า “Dark Warehouse” ซึ่งเป็นประโยชน์ในการจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะเจ้าระบบนี้จะช่วยให้การทำงานด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์รวดเร็วและราบรื่นขึ้น สั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตลอดการดำเนินงาน
Dark Warehouse คืออะไร ?
Dark warehouse คือระบบคลังสินค้าอัตโนมัติชนิดหนึ่ง ที่มาพร้อมอุปกรณ์ช่วยจัดการสินค้ากับวัสดุในคลังสินค้าแบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ ทุกๆ ระบบในคลังสินค้าจะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ระบบจัดการคลังสินค้า ระบบจัดการสินค้าคงคลัง และระบบจัดการคพสั่งซื้อ นอกจากนี้คำว่า ‘Dark’ ซึ่งแปลว่า ‘มืด’ ในบริบทนี้กล่าวถึงการทำงานที่ไม่มีแรงงานคนเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการเปรียบเทียบว่าระบบอัตโนมัตินั้นไม่ได้ต้องการไฟฟ้าในการทำงานนั่นเอง
สถานที่ตั้งของคลังสินค้าชนิดนี้มักจะตั้งอยู่ในเขตชานเมืองและนอกเมือง มีบริการรับสินค้าและส่งสินค้าในวันเดียวกัน โดยสถานที่ตั้งอาจจะอยู่หลังซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้าปลีก หรือมีอาคารและพื้นที่เป็นของตัวเอง ร้านค้าที่ใช้การดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติ (dark store) มักจะตั้งอยู่ในร้านค้าปลีกเดิมที่เจ้าของต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านค้า เนื่องจากร้านค้าแบบเดิมนั้นทำกำไรได้น้อยนั่นเอง
เรามาดูข้อดีของ Dark wearhouse กัน !
ลดต้นทุนที่ผันแปร
คลังสินค้ามืดช่วยลดต้นทุน ลดแรงงานคนที่มาทำในหน้าที่ สต็อก แพ็ค และจัดการออเดอร์ที่เข้ามารัวๆ ได้อยู่หมัด ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็ยังสามารถแบ่งออกเป็น OT, โบนัส และภาษีเงินเดือน เป็นต้น
แรงงานหุ่นยนต์ทดทนแรงงานคน
ด้วยความที่คลังสินค้ามืดใช้หุ่มยนต์และระบบคอมพิวเตอร์ในการดำเนินงานทั้งหมด ในตอนนี้การใช้หุ่นยนต์ไม่ได้แพร่หลาย แต่เทรนด์การใช้หุ่นยนต์เบิกจ่ายจ่ายสินค้าจะมาแรงในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งมันจะทำให้การดำเนินงานภายในคลัง ตั้งแต่สต๊อก หยิบสินค้าจากชั้นวางหรือตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเตรียมส่งออกจะง่าย แม่นยำ และรวดเร็วขึ้นกว่าแรงงานคนนั่นเอง
เพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน
ในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า การจัดกลุ่มและการวางสินค้านั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การที่จะดำเนินงานให้อย่างราบรื่นนั้นต้องมีการจัดหาวัตถุดิบที่มีอยู่ และมีการสต็อกสินค้าอยู่เสมอ ทั้งคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้านั้นอาศัยการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า เพื่อรักษาผลกำไรของเขาไว้นั่นเอง
ระบบ AS/RS ส่วนใหญ่ต้องการใช้พื้นที่ทางเดินที่แคบกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกชนิดอื่น ที่ต้องการพื้นที่ที่กว่างเพื่อให้คนและอุปกรณ์สามารถเคลื่อนผ่านได้ ซึ่งทางเดินที่แคบนั้นจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บสินค้า ทำให้คลังสินค้าสามารถรองรับสินค้าได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องขยายสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกก็ยังสามารถใช้พื้นที่ในแนวตั้งได้มากขึ้น เนื่องจากระบบการจัดเก็บข้อมูลอัตโนมัติสามารถเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บได้ง่ายกว่าวิธีแบบเก่า ๆ
ปลอดภัยยิ่งขึ้น
พนักงานทำงานในแบบซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็นเวลานานก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้า ซึ่งอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการทำงานที่ผิดพลาด และเกิดการบาดเจ็บได้ แต่ในทำนองเดียวกันนั้น ความผิดพลาดขณะในการใช้งานเครื่องจักรในโรงงาน หรือคลังสินค้าก็อาจจะเป็นอันตราย ส่งผลให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
การแก้ไขปัญหาของระบบ AS/RS ช่วยกำจัดข้อผิดพลาดที่อาจจะไปขวางประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัย รวมถึงความเครียดและความกดดันของพนักงาน โดยการทำให้กระบวนการเหล่านี้เป็นอัตโนมัติ อุปกรณ์ของ AS/RS อาจจะสามารถขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่มนุษย์จะรับได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุจากการยกของได้
มาดูข้อเสียของคลังสินค้ามืด (Dark warehouse) กัน
การลงทุนในครั้งแรกนั้นมีราคาแพง !
การนำระบบจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลอัตโนมัติมาใช้ดูเหมือนจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านแรงงาน และเพิ่มผลผลิตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ประโยชน์เหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง เช่นเดียวกับระบบอัตโนมัติอื่น ๆ การซื้อ AS/RS มีราคาแพงกว่าการจ้างพนักงาน หรือการเลือกใช้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น รถยก การลงทุนในครั้งแรกอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ไม่เหมาะกับการทำงานที่มีการแปรผันสูง
AS/RS เหมือนกับระบบอัตโนมัติอื่น ๆ จะทำงานได้ดีที่สุดกับการทำงานที่กิจกรรมเป็นปกติ ซ้ำ ๆ การทำงานที่มีการจัดการผลิตภัณฑ์ วัสดุ ทีมีความหลากหลายในแต่ละสัปดาห์ พบว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะรวม AS/RS ไว้ในแผนธุรกิจของพวกเขา เนื่องจาก AS/RS ทำงานตามขั้นตอนที่วางไว้ล่วงหน้า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจึงเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ยาก
การบำรุงรักษาและซ่อมแซม
การจ่ายเงินไปล่วงหน้าไปนั้นจะถือว่าเป็นข้อดี แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำเกี่ยวกับระบบ AS/RS ระบบพวกนี้จะต้องมีการบำรุงรักษาและมีการซ่อมแซมอยู่อย่างสม่ำเสมอ
หากต้องการซ่อมแซมอุปกรณ์สำหรับใช้ในคลังสินค้า คุณจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ความรู้เฉพาะด้าน และมันก็มาพร้อมกับค่าซ่อมแซมที่สูงกว่าการซ่อมอุปกรณ์ในคลังสินค้าแบบมาตรฐานซะอีก เช่น รถยก หรือ ระบบสายพานลำเลียง
หากเครื่องจักรนั้นอยู่ในขั้นตอนการซ่อมแซม การทำงานในคลังบางส่วนอาจจำเป็นต้องหยุดทำงาน ซึ่งทำได้แค่รอ ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยจึงจะสามารถใช้งานตามปกติได้
การเตรียมความพร้อมที่ใช้เวลานาน
การแก้ไขปัญหาโดยใช้ระบบ AS/RS นั้นจำเป็นที่จะต้องกำหนดค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสม รวบรวมและเก็บสิ่งที่เกี่ยวข้องไว้ในตำแหน่งที่ที่ถูกต้อง แม้ว่ามันจะเป็นการทำงานโดยอัตโนมัติก็ตาม และต้องจัดเก็บเรียกค้นข้อมูลโดยมีส่วนร่วมของคนน้อยที่สุด
จำเป็นที่จะต้องใช้ความสามารถทางเทคนิคและมีการอบรมให้กับพนังงาน
การจัดการอบรบด้านคลังสินค้าที่ใช้ระบบ AS/RS นั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อให้พนักงานทุกคนใช้ระบบดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย แต่ก็เมื่อมีการจัดอบรมงั้น แน่นอนพนักงานก็ต้องหยุดงานเพื่อไปเรียนรู้เจ้าตัวระบบนี้
แล้ว “คลังสินค้ามืด” เหมาะกับใคร ?
ท่ามกลางสถานะการณ์การระบาดของ COVID-19 แต่ธุรกิจออนไลน์กลับเติบโตขึ้นอย่างมาก มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เราใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าไวรัสตัวนี้มาเป็นเวลาค่อนข้างนาน ผลกระทบที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่ามากมายมหาศาล หลายๆ กิจกรรมไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ บริษัทบางเเห่งล้มละลาย สินค้าผลิตไม่ได้ และการจัดส่งล้าช้า ซึ่งมีผลทำให้เศรษฐกิจซบเซา
ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีทางด้านคลังสินค้าอัตโนมัติ ที่มาช่วยเติมเต็มธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ก้าวเดินต่อไปได้ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการและผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าออนไลน์และโลจิสต์ควรที่จะศึกษาเจ้าตัวระบบนี้และราคาให้ดีก่อนตัดสินใจติดตั้ง ระบบอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบมักจะมีราคาที่สูง ด้วยเหตุนี้ระบบอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบนั้นจึงเหมาะกับสินค้าที่มีสถานะคงที่ ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินงานภายในคลัง นอกจากนี้สินค้าที่จะต้องควบคุมอุณหภูมิก็เหมาะกะบนระบบคลังสินค้ามืดเช่นกัน
ทำไมบริษัทต่าง ๆ ถึงยังไม่ยอมรับคลังสินค้ามืด (Dark warehouse)?
ดูเหมือนว่าระบบคลังสินค้ามืดจะเป็นวิธีที่ดีในการต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในอนาคต แต่ในทางกลับกันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ ผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์จะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ จะลงทุนในระบบอัตโนมัติแบบเต็มรูปก็เสี่ยงอยู่พอตัว ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้แก่
- การอิ่มตัวของเทคโนโลยี
- ทักษะของพนักงาน
- ลักษณะการจัดระเบียบต่าง ๆ ของธุรกิจ และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะเข้ามามีบทบาท
มาดูข้อกำหนดเบื่องต้นของ คลังสินค้ามืด (Dark Warehouse) กัน !
1. ระบบคลังสินค้ามืดช่วยให้สินค้าส่งตรงไปถึงลูกค้าปลายได้อย่างราบรื่น หรือที่เราเรียกกันว่า Last-mile delivery ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ค้าอีคอมเมิร์ซที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบาย รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงการจัดการออเดอร์ให้ดีขึ้น พร้อมทั้งส่งมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
2. คลังสินค้ามืดที่ถูกควบคุมหุ่นยนต์และระบบคอมพิวเตอร์จะสามารถจัดเก็บสินค้า คัดแยก และแพ็คเพื่อจัดส่งได้ถูกต้องตามคำสั่งซื้อมากกว่าการใช้แรงงานคน
3. เนื่องจากมีสินค้าในคลังสินค้ามืดจำนวนมาก ดังนั้นตัวคลังสินค้าจะต้องถูกออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางเพื่อจะได้สต๊อก แพ็ค และส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยใช้แรงงาคนให้น้อยที่สุด
4. การติดตั้งระบบคลังสินค้าอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ หรือคลังสินค้ามืด จะช่วยเติมเต็มเรื่องการจัดการออเดอร์และคลังสินค้าให้กับธุรกิจของคุณได้ในหลายๆ ขั้นตอน เช่น เก็บสินค้าเข้าคลังสินค้า การเติมสินค้า ซึ่งจะช่วยลดการเคลื่อนย้ายซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ลดขั้นตอนการทำงานได้และต้นทุนได้ด้วย
5. การวิเคราะห์ข้อมูลในคลังสินค้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อให้คุณบรรลุ KPI ของคลังสินค้าที่ตั้งไว้ได้ ระบบคลังสินค้ามืดทำให้ผู้ประกอบการจะสามารถติดตามสถานะของสินค้าในคลังได้แบบเรียลไทม์
ทำไมเราถึงควรจะเลือกระบบอัตโนมัติ หรือ คลังสินค้ามืด (Dark warehouse)
เป็นอันที่รู้กันว่าคลังสินค้าอัตโนมัติเพิ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องจักรคลังสินค้า หรือ หุ่นยนต์ในปัจจุบันถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการสินค้าคงคลังในอนาคต
วันที่พนักงานควรจะเข้าสู่ศูนย์กระจายสินค้าน่าจะมาถึงตั้งนานแล้ว หลังจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพไปทั่วโลก ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรวมหุ่นยนต์กับพนักงานเข้าคลังสินค้า เพื่อช่วยให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น
นี่คือเหตุผลที่เราควรหันไปใช้คลังสินค้าอัตโนมัติ
จ่ายเงินได้ง่ายขึ้น
ก่อนที่จะดำเนินการส่งสินค้าออกไปได้นั้น ลูกค้าจะต้องชำระค่าสินค้าผ่านการหักบัญชีเข้าสู่บัญชีของบริษัท โดยซอฟแวร์ระบบอัตโนมัติจะประมวลผลการชำระเงินและออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ อีกทั้งนำข้อมูลเข้าสู่ระบบบัญชีของบริษัทผ่านโปรแกรม RPA จะช่วยให้ซอฟแวร์ได้รับการออกแบบเพื่อส่งข้อมูลการชำระเงินไปยังคลังสินค้า เพื่อระบุว่าสินค้าได้รับการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว และสินค้าจะพร้อมจัดส่งทันที
การบริหารงานด้านแรงงาน
ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยพนักงานที่เป็นคนในการทำงานในคลังสินค้า แทนการเข้ามาแทนที่ ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เคลื่อนที่ และโดรน สามารถช่วยลดเวลาในการเดินทางในสถานที่ทำงาน และสามารถทำงานที่ซ้ำซากจำเจได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดการและพนักงานสามารถใช้ความสามารถในการดำเนินงานคลังสินค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้พนักงานในคลังสินค้ามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น พึงพอใจกับงานที่ทำมากขึ้น และกระตือรือร้นพร้อมที่จะพัฒนาความสามารถของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
ประมวลผลคำสั่งซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น
การรวมกันระหว่างคลังสินค้ากับช่องทางการขายทางดิจิทัลของบริษัท (อีเมล, เว็บไซต์, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และอื่น ๆ ) จะส่งผลให้การประมวลผลคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคสามารถทำการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ และด้วยระบบ RPA และ API ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลคำสั่งซื้อกับโปรแกรมการจัดการสินค้าคงคลังได้โดยอัตโนมัติ
พร้อมเข้าบำรุงรักษาทันที
เซ็นเซอร์ของ IoT และ RPA สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ เพื่อบำรุงรักษาอุปกรณ์ในคลังสินค้า ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ของ IoT สามารถตรวจจับว่า อุณหภูมิของรถยกสูงกว่าปกติ จากนั้นจะส่งสัญญาณไปยังโปรแกรม IoT และปัญหาจะถูกส่งต่อไปยังคนที่เหมาะสมที่จะแก้ไขปัญหานี้ เช่น หัวหน้างาน จากนั้นจะนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปซ่อมก่อนที่ปัญหาจะเกิด อุปกรณ์เสื่อมโทรม และถูกบังคับยกเลิกการใช้งานไปในที่สุด
ข้อผิดพลาดแทบจะไม่มี
มีแอปพลิเคชันเกี่ยวกับสินค้าคงคลังหลายแอป บางอันก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาแบบ stand-alone solutions เช่น แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือโดรนที่มีการติดตั้งเครื่องสแกนบาร์โค้ด รวมเข้ากับระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนัติที่ใหญ่ขึ้น โดยวัตถุประสงค์หลักของระบบอัตโนมัติของสินค้าคงคลัง คือ การปรับปรุงความแม่นยำและควบคุมการจัดเก็บสินค้า นี่เป็นหนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของระบบอัตโนมัติ เนื่องจากสินค้าคงคลังที่ปราศจากข้อผิดพลาดจะช่วยลดการสูญเสียของสินค้าได้
ความยั่งยืน
ความยั่งยืนถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกบริษัท ร้านค้าปลีกและโลจิสติกส์ก็ไม่ต่างกัน ระบบการจัดการคลังสินค้าและเทคโนโลยีอัตโนมัติอื่น ๆ จะช่วยให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์การคาดการณ์การตรวจสอบสภาพและระบบการจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะจะช่วยให้สามารถควบคุมการใช้ทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และนำแนวทางสิ่งแวดล้อมขั้นพื้นฐานมาปรับใช้ เช่น การรีไซเคิลมาใช้ในการดำเนินงาน
บทส รุป
ด้วยความสะดวกสบายของลูกค้า ความพึงพอใจของการบริการที่ดีขึ้น และการเข้าถึง Dark store กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับการส่งสินค้าโดยตรงจากคลังสินค้า ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดหาสินค้าให้กับลูกค้า ความต้องการของ Dark store นำไปสู่การขยายตัวอย่างรวดเร็วของพื้นที่โลจิสติกส์ในเมือง
การจัดการคำสั่งซื้อและการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ Dark store สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
คลังสินค้ามืด (Dark wearhouse) คืออะไร
แนวคิดของคลังสินค้ามืด (Dark wearhouse) นั้นฟังดูอาจจะเหมือนเป็นแนวคิดในการประหยัดพลังงาน แต่ความหมายที่แท้จริงของมันนั้นคือ เป็นระบบคลังสินค้าที่มีอุปกรณ์ในการจัดการวัสดุแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบดำเนินคลังสินค้า การระบุสินค้าคงคลัง และการจัดส่งแบบอัตโนมัติ
คลังสินค้าทำหน้าที่อะไรในกระบวนการจัดการคลังสินค้า ?
กระบวนการจัดการคลังสินค้าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อคำสั่งซื้อของลูกค้าได้รับการ “เติมเต็ม” กระบวนการจัดการคลังสินค้าจะเป็นกระบวนการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทาง และคลังสินค้าเป็นหน้าที่ของซัพพลายเชน
Orders Fulfilled VS Orders Shipped เหมือนกันหรือไม่?
Fulfilled order หมายถึง ศูนย์จัดการสินค้าได้รับสินค้าแล้ว จัดเก็บในระยะเวลาอันสั้น บรรจุ ติดป้าย และกำลังรอการจัดส่ง ส่วน ‘Order Shipped’ หมายถึง ศูนย์บริการจัดส่งได้รับคำสั่งซื้อที่จัดส่งแล้วและกำลังเดินทางไปยังที่อยู่ของลูกค้าปลายทาง
เป็นการจัดเก็บและรักษาสินค้าให้คงสภาพเดิม ไม่พังในระหว่างการขนส่งจากโรงงานผลิต ผู้ค้าและลูกค้าปลายทาง
DC คืออะไรในคลังสินค้า ?
DC ย่อมาจาก Distribution Center หรือในภาษาไทยเราเรียกว่า ศูนย์กระจายสินค้า หรือ ศูนย์จัดการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางด้านโลจิสติกส์
คลังสินค้าอัตโนมัติคืออะไร ?
คลังสินค้าอัตโนมัติประกอบไปด้วยระบบต่างๆ เช่น ระบบจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS) ซึ่งจะจับคู่กับระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) คลังสินค้าในรูปนี้ดังกว่าจะลดขั้นตอนในการดำเนินงานในคลังสินค้า และจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางได้อย่างรวดเร็วทันใจนั่นเอง
ทำไมหลายๆ ธุรกิจจะต้องปรับระบบคลังสินค้าให้เป็นแบบอัตโนมัติ
คลังสินค้าอัตโนมัติของคลังสินค้าจะช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมั่นใจ เจ้าตัวระบบจะรวบรวมข้อมูลและควบคลุมสินค้าในคลังโดยอัตโนมัติ