E-Commerce Pain Points : อย่าปล่อยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ พบจุดเจ็บปวด

ตารางคอนเทนต์

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านโลจิสติกส์และการบริการได้ที่นี่!

เวลาในการอ่าน: 2 นาที

ความแตกต่างระหว่างการซื้อสินค้าออนไลน์และสินค้าจากหน้าร้าน ลูกค้าอีคอมเมิร์ซจะคาดหวังกับตัวสินค้าและบริการออนไลน์มากกว่าเดินไปซื้อหน้าร้าน พวกเขาจะคาดกับประสบการณ์การชอปปิ้งที่ง่ายๆ รวดเร็ว และไร้ปัญหา ปัจจุบันเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีอยู่มากมาย เพียงแค่ความผิดพลาดเล็กๆ อาจทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจไปอุดหนุนร้านอื่นได่นั่นเอง 

วันนี้ Locad Thailand มีวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาที่พบบ่อยๆ ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาฝากเพื่อคุณจะได้พร้อมหาทางแก้ไขหรือป้องกันก่อนใครเพื่อน และนี่แหละคือจุดที่ทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างของคู่แข่งในตลาดนั่นเอง จะมีวิธีอะไรที่ให้เพื่อนๆ เจ้าของธุรกิจทั้งหลายไปปฏิบัติตามบ้าง ไปดูกันเลย! 

อะไรคือ Pain Point ของระบบอีคอมเมิร์ซที่พบบ่อยที่สุด

นำสิ่งค้าไปลงค้าผิดแพลตฟอร์ม 

การเปิดร้านอีคอมเมิร์ซในตลาดกลางหรือแพลตฟอร์มผู้ขายนั้น ทำได้ง่ายๆ ราคาถูก เพิ่มศักยภาพในการขายสินค้าของคุณ และมี Return on Investment (ROI) (อัตราส่วนของกำไรสุทธิกับค่าใช้จ่ายของคุณ) ที่ไร้ขอบเขต แต่ต้องดูดีๆ บางทีแพลตฟอร์มที่มีค่าใช้จ่ายที่การแลกเข้าที่ถูก มักจะมีข้อจำกัดในแง่อื่น เช่น การโปรโมทและโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะเติบโต ดังนั้นให้เลือกแพลตฟอร์มสำหรับลงขายสินค้าที่สามารถเติบโตที่กับธุรกิจของคุณได้ และจะตอบสนองความต้องการของคุณในระยะยาวเช่นกัน ในขณะเดียวกันตัวแพลตฟอร์มก็จะต้องมอบประสบการณ์การขายที่ดีที่สุดแก่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณด้วย 

ทุกวันนี้ยอดขายของตลาดออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น 45% จากช่วงก่อนหน้าการระบาดของ COVID-19 และมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว การเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจของคุณได้นั้น ส่งผลต่อการดำเนินงานภายในธุรกิจหรือทำให้การจัดส่งล่าช้า ซึ่งลูกค้าของคุณจะไม่พอใจแน่นอน  ดังนั้นแพลตฟอร์มที่คุณจะเลือกต้องบอกจุดบกพร่อง หรือ Pain Points ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน การจัดการ SKU จำนวนมากในแคตตาล็อก การทำคอนเทนต์รูปแบบใหม่ เช่น วิดีโอ หรือมีการติดตามพัสดุที่จัดส่ง ซึ่งปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น อาจจะทำให้เกิดคำวิพาร์กจารณ์เชิงลบมากมายจากลูกค้า จะทำให้คะแนนผู้ขายของคุณลดลง และทำให้กามองเห็นวิจารณ์เชิงบตามมาในภายหลัง ซึ่งมีต่อผลการให้คะแนนผู้ขายของคุณ การมองเห็นของสินค้าและร้านค้าของคุณก็จะลดลงนั่นเอง 

จากการคาดการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้วที่จะเติบโตและมีมูลค่าถึง 2.27 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ และทำเงินได้มากกว่า 60% ของการใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซทั่วโลก แต่บางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยอดนิยมในเอเชียแปซิฟิกก็จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมคลังสินค้า ค่าบริการรายเดือน ค่าธรรมเนียมไปรษณีย์ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด หาแพลตฟอร์มหรือผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น Lazada, Shopee และ Shopify

แต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ให้ศึกษารายละเอียกของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดี ยกตัวอย่างเช่น Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีผู้ใช้มากกว่า 4 ล้านคน ตัวเลขของผู้ใช้ที่มากนั้นสร้างความน่าเชื่อถือไม่น้อยเลย แต่อย่าลืมคำถึงถึงค่าคอมมิชชัน 2% (+VAT) ด้วย ละจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มไหนน่าเชื่อถือ เรามี 4 คำถามเตือนสติให้กับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ทุกท่านได้ถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อนจะตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มนั้นๆ 

  1. ธุรกิจของคุณใหญ่แค่ไหน? 
  2. คุณวางแผนการเติบโตของธุรกิจไปในทิศทางไหนบ้าง? 
  3. ข้อกำหนดในการจัดส่งคุณมีอะไรบ้าง?
  4. คุณจะมีส่วนร่วมกับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนตัวแพลตฟอร์มอย่างไรในอนาคต?

ประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าติดลบ

ในปัจจุบันเรานั้นอาศัยอยู่ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยโซเซียลมีเดีย ก็จะพบเจอกับคำวิพาร์กวิจารณ์ของผู้อื่นทั้งทางด้านบวกและทางด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบ บนความ วิดีโอบทTikTok โพสต์บน Instagram หรือวิดีโอ YouTube ก็ตาม จากสถิทั่วโลก มีผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันและในเอเชียแปซิฟิก จะเป็นโซนที่ผู้ใช้งานแอคทีฟมากที่สุในโลก พวกเขาใช้เวลาออนไลน์ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน และนี่ก็คือเหุผลว่าทำไมคุณควรที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงให้โซเชียลมีเดียในการทำการตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

แน่นอนว่าลูกค้าทุกๆ ท่านต้องการความน่าเชื่อถือจากคุณ คุณจึงจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจให้กับพวกเขา และพร้อมที่จะแก้ไชปัญหาหรือข้อกังวลของพวกเขาได้อย่างทันท่วงทีและเต็มใจ  เพราะทุกวันนี้ทุกคนมีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือ จะโพสต์หรือแชร์อะไรก็เพียงแค่ปลายนิ้ว ดังนั้นการที่พวกเขาจะเรียกร้อง หรือวิจารณ์ธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องยากเลย 

การจัดส่งที่ล่าช้าหรือข้อผิดพลาดเกี่ยวกับคำสั่งซื้ออาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ แต่ก็จะให้อภัยคุณได้เมื่อมีการจัดการที่รวดเร็วทันใจ ปัญหาในลักษณะนี้อาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามในการแก้ไข ซึ่งเป็นธรรมดาที่ความรู้สึกของลูกค้าจะติดลบ เมื่อพวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเคารพในฐานะผู้บริโภค พวกเขาเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์นี้เพื่อเตือนผู้อื่นผ่านโลกโซเชียล 

หากต้องหารหลีกเลี่ยงจุดบกพร่องในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กล่าวมาข้างต้น และเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลบให้กลายเป็นบวก คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่าทั้งตัวสินค้าและการบริการลูกค้าของคุณนั้นดีพอ

การบริการที่ธุรกิจอีคอมเมิร์สควรจะมี ได้แก่

  •  การบริการมีให้ตลอด 24 ชั่วโมง 
  • เป็นเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย พร้อมมีตัวเลือกการชำระเงินที่รวดเร็วและใช้งานง่าย
  • ยินดีให้คืนสินค้าฟรี 
  • มีช่องทางติดต่อโดยตรงกับทีมบริการลูกค้า 
  • ระบุหมายเลขโทรศัพท์ไว้หรับติดต่อไว้บนแพลตฟอร์ม 
  • มีส่วนลดและสิทธิปรโยชน์ต่างๆ ให้กับลูกค้า 
  • มีการตอบสนองกับการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความบนโวเชียลมีเดีย 

ลูกค้าไม่สามารถติดตามสินค้าได้แบบ Real Time

แรงจูงใจที่สำคัญของนักช้อปออนไลน์ก็คือ การจัดส่งที่ยืดหยุ่นและทางเลือกในการส่งคืนสินค้า อย่างไรก็ตาม 84% ของผู้ขายอีคอมเมิร์ซไม่สามารถให้บริการดังกล่าวได้ เพราะไม่มีการแสดงสินค้าคงคลังและตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) แบบเรียลไทม์ ความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณในหลายๆ ด้าน และช่วยคุณจัดการปัญหาด้านอีคอมเมิร์ซนี้ด้วย หากธุรกิจของคุณมีระบบการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ คุณจะสามารถหลบหลีกจุดบกพร่อง หรือ Pain Points ของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่ง LOCAD ของเรามีระบบ Contro Tower ที่จะแสดงระดับของสินค้าคงคลัง แสดงความเคลื่อนไหวของสต็อก วิเคราะห์ข้อมูล และมี KPI ในการวัดควาสำเร็จ เพื่อให้ร้านค้าได้รับข้อมูลล่าสุดว่าผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ต้องสั่งซื้อใหม่หรือยกลิกนั่นเอง 

เผชิญกับค่าจัดส่งสุดโหด 

ค่า Conversion นั้นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการวิเคราะห์เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ  มันคือตัวชี้วัดว่าหลังจากที่คนคลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะคำนวณออกมาเป็นเปอร์เซนต์ของยอดขาย ไม่ใช่เพียงแค่คนที่คลิกเข้ามาเฉยๆ บางคนคลิกเข้า เจอค่าส่งที่แสนจะโหด จอดเลย ไม่ซื้อ หากมีค่าจัดส่ง คุณจะต้องระบุค่าจัดส่งให้ลูกค้าล่วงหน้าอย่างชัดเจนไว้บนแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้พวกเขาแปลกใจตอนจ่ายเงิน ทักวันนี้ ลูกค้าจะคาดหวังกับการจัดส่งฟรีอย่างแพลตฟอร์มช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เช่น Amazon และ Alibaba แต่ถ้าคุณไม่มีบริการจัดส่งฟรีก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยให้ระบุราคาให้ชัดเจน นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้คุณมีโปรโมชั่จัดส่งฟรีเมื่อซื้อครบถึงเกณฑ์ราคาที่กำหนดไว้ วิธีหนึ่งที่จะย่นระยะเวลาในการจัดส่ง ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และทำให้การจัดการสินค้าคงคลังของคุณง่ายขึ้น คือ หาพาร์ทเนอร์ที่สามารถเชื่อมต่อช่องทางการขายได้หลากหลายและแนะนำข้อปฏิบัติต่างๆ ให้กับธุรกิจของคุณ และที่สำคัญมีอัตราค่าจัดส่งที่เป็นมิตรกับลูกค้า

Locad ของเราจะช่วยให้คุณขายสินค้าได้หลากหลายช่องทาง เชื่อมต่อไปยังเครือข่าย Fulfillment พร้อมค่าจัดส่งที่เป็นมิตร และนำสต็อกของคุณเข้าใกล้ลูกค้ามากขึ้น ลดระยะทาง ลดต้นทุนในการจัดส่ง แต่จัดส่งเร็วขึ้นนั่นเอง

Locad ตัวช่วยให้หลีกเลี่ยง Pain Points ที่จะเกิดขึ้น 

หากจะต้องจัดการทุกๆ แง่มุมในธุรกิจด้วยตัวเอง คงจะเป็นอะไรที่ท้าทายและน่าปวดหัวไม่ใช่น้อย จริงไหม? Locad พร้อมเติมเต็มธุจกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ เปลี่ยนความวุ่นวายให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ได้ทันที 

แพลตฟอร์มซัพพลายเชนที่จะให้บริการทางด้านคลังสินค้า เก็บ-แพ็ค-ส่ง เชื่อมต่อได้ทุกช่องทางการขาย และตอบสนองความต้องการในการจัดการคลังสินค้อย่างเป็นระบบระเบียบเพื่อจัดส่งในขั้นตอนถัดไป LOCAD นั้นเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย เราจะช่วยจัดโครงสร้างพื้นฐานของคุณ  ช่วยลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ และการขยายธุรกิจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป

ด้วยเทคโนโลยี Locad Control Tower คุณจะสามารถติดตามสถานะของสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งมี KPI ในการวัดผลอีกด้วย เพราะเราเข้าใจหัวอกคนทำธุรกิจ เราสามารถเติมเต็มความสำเร็จให้ธุรกิจของคุณ เพื่อให้คุณได้โยนความเครียดบางส่วนออกไปและมีเวลาไปพัฒนาส่วนอื่นๆ ของธุรกิจ ด้วยประสบการณ์หลายปีในเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ขายอีคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการ และลูกค้าระดับองค์กร เราได้พัฒนาโซลูชันให้ดีขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น  

  • การวางแผนความต้องการซื้อและขายในตลาดอีคอมเมิร์ซ 
  • Control Tower Dashboard ของ Locad  ให้คุณได้ติดตามสถานะของสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์
  • ข้อกำหนดที่ยืดหยุ่นและการกำหนดราคาตามเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงได้โดยไม่มีข้อผูกมัดในการล็อคอิน
  • เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ
  • เรามีเครือข่าย Fullfilment แบบกระจาย เพื่อให้สต๊อกสินค้านั้นเข้าใกล้ลูกค้าปลายทางของคุณมากยิ่งขึ้น ลดระยะทาง จัดส่งเร็วขึ้น และประหยัดต้นทุนมากขึ้น
  • เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มหรือตลาดที่คุณเลือกได้ง่ายๆ 
  • ประหยัดเงินให้กับคุณ สำหรับการทำสัญญากับบริษัทจัดส่งหลายๆ แห่ง
  • คุณจะติดตามสถานะของสินค้าและเห็นสถิติได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่การเก็บ แพ็ค  ติกตามสถานะสินค้าคงคลัง และการวิเคราะห์ KPI 

เราหวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่าน ติดต่อเราได้ทุกเมื่อ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการและตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักของคุณ ให้เราเติมเต็มธุรกิจให้คุณ ให้คุณมุ่งเน้นที่การขยายธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าต่อๆ ไปในอนาค 

ทดลองเปิดประสบการณ์ Fulfillment กับ Locad

สร้างธุรกิจให้เติบโตได้ด้วยระบบ Fulfillment ที่ใช้ง่าย และจัดการให้คุณอัตโนมัติจาก Locad

  • คลังเก็บสินค้าไม่จำกัด และขยายได้
  • จ่ายเท่าที่คุณจัดเก็บ
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง ไม่กำหนดระยะเวลา
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมหรือแลกเข้า
  • รวบรวมมาร์เก็ตเพลส
  • จัดการ และจัดส่งสินค้าอัตโนมัติ

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านโลจิสติกส์และการบริการได้ที่นี่!

Don't miss out on the latest news!

Get the latest industry news, best practices, and product updates!

Exclusive benefits to ace your e-commerce game this 2023 with Locad’s desk calendar!