การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ตารางคอนเทนต์

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านโลจิสติกส์และการบริการได้ที่นี่!

เรามีสถานที่จัดเก็บสินค้าโดยเฉพาะ พร้อมแนวทางทางเทคนิคและข้อกำหนดสำหรับการจัดเก็บสินค้าและวัสดุในคลังสินค้า ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระบบคลังสินค้า คลังสินค้าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกแบบบูรณาการที่ช่วยควบคุมและจัดการสินค้าทั้งขาเข้าจากศูนย์ผลิต และ สินค้าขาออก รวมถึงกระบวนการหลังการผลิต การขาย และการจัดส่งโดยตรง

การจัดการคลังสินค้าเป็นกระบวนการรูปแบบโครงสร้างการจัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามสินค้าที่จะนำไปสู่กระบวนการถัดไป ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญ
ของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ หากธุรกิจไม่มีระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ อาจะทำให้ธุรกิจนั้นดำเนินต่อไปได้ยากในให้บริการฐานลูกค้า
ผู้ขายตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานภายในองค์กร

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

การบริหารจัดการคลังสินค้าคืออะไร?

นอกจากนั้นการจัดการคลังสินค้ายังเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จสำหรับธุรกิจที่มีสินค้าคงคลังจำนวนมาก ซึ่งโดยพื้นฐานจะจัดระเบียบและควบคุมองค์ประกอบภายในคลังสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจ ว่าทำงานได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม การจัดการสินค้าอย่างเป็นระบบระเบียบ จะช่วยให้ธุรกิจพร้อมจัดส่งสินค้าสู่ลูกค้าได้ทันเวลา

ลักษณะการดำเนินงานจะครอบคลุมหลักการและแนวทางปฏิบัติประจำวันของการจัดการคลังสินค้า กระบวนการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ จะเพิ่มความสามารถในการดำเนินงานโดยส่งเสริมความโปร่งใสและประสิทธิผลด้วยต้นทุนที่ต่ำอย่างแท้จริง

Fulfillment center ศูนย์การจัดการคลังสินค้าระดับพรีเมียมในประเทศไทย E-commerce Warehouse Rack System | Locad Blog

Fulfillment center ศูนย์การจัดการคลังสินค้าระดับพรีเมียมในประเทศไทย

Fulfillment center ศูนย์การจัดการคลังสินค้าระดับพรีเมียมในประเทศไทย Grow your E-Commerce Brand Now สต๊อกเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์กว่า 100+ แบรนด์ ฟรีค่าธรรมเนียมในการติดตั้ง การหาศูนย์บริการสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่น่าเชื่อถือนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย Locad จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เชื่อถือได้ในการขยายธุรกิจ คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะมีมูลค่ากว่า 33.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 และนี่ถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่ตั้งขึ้นมานานแล้วหรือเพิ่งเริ่มธุรกิจ การมีทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดการสินค้าและจัดส่งอย่าง Locad นั้นจะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินง่ายขึ้นเพียงแค่คุณย้ายจุดโฟกัสไปยังลูกค้าและปล่อยให้งานด้านเก็บ-แพ็ค-ส่งเป็นหน้าที่เรา มุ่งหน้าธุรกิจไปกับ Locad ทำไม…

พื้นฐานของระบบการจัดการคลังสินค้า

การจัดการคลังสินค้าอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่ก็มีวิธีเฉพาะที่สามารถปฏิบัติตามได้ ซึ่งวิธีที่ถูกต้องอาจะต้องใช้ความพยายามหน่อย แต่ผลที่ตามมาคือความคุ้มค่า เพื่อทำความเข้าใจ เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ลดต้นทุน ลดข้อผิดพลาด และบรรลุอัตราคำสั่งซื้อที่สูงขึ้น

ขั้นตอนจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพมีดังต่อไปนี้

การรับสินค้า

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกและขั้นตอนสำคัญในการจัดการคลังสินค้า เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง ทีมบริหารคลังสินค้าจะตรวจสอบว่าสินค้าที่ได้รับมีปริมาณที่เหมาะสม ในสภาพที่เหมาะสม และในเวลาที่เหมาะสม จากนั้นจะโอนความรับผิดชอบไปยังระบบจัดการคลังสินค้าเพื่อบำรุงรักษาเพิ่มเติมจนกว่าจะมีการจัดส่ง

การเรียงสินค้า

หลักๆ จะเป็นการจัดเรียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าสำหรับการจัดเก็บในอนาคต จากท่าเรือรับไปยังตำแหน่งการจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด หากแนวทางปฏิบัติในการจัดการสินค้าประสิทธิภาพ จะช่วยให้จัดเก็บได้เร็วขึ้นปลอดภัย มั่นใจได้

การจัดเก็บสินค้า​

การจัดเก็บสินค้าสร้างความมั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับจะถูกจัดวางอย่างถูกต้องในพื้นที่จัดเก็บที่จัดสรรไว้ ซึ่งเป็นไปตามดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จ (KPIs) ที่ตั้งไว้อย่างเหมาะสม กระบวนการจัดเก็บจะช่วยให้ธุรกิจเพิ่มพื้นที่ได้สูงสุดในขณะที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้า

การตรวจแยกประเภท

หลักๆ จะเป็นการจัดเรียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าในอนาคตสำหรับการจัดเก็บ จากท่าเรือรับไปยังตำแหน่งการจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด แนวทางปฏิบัติในการเก็บเข้าคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดเก็บเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพด้วยความปลอดภัยที่มั่นใจได้

Picking

การเลือกหยิบสินค้าในคลังสินค้าสุดของกระบวนการรวบรวมผลิตภัณฑ์ในคลังสินค้าอย่างถูกต้อง เพื่อเติมเต็มคำสั่งซื้อของลูกค้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในระบบการจัดการคลังสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าจึงสามารถลดต้นทุนโดยรวมได้อย่างมาก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวม

การจัดส่งสิงค้า

ขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการคลังสินค้า สินค้าสำเร็จรูปจะถูกจัดส่งจากคลังสินค้าให้กับลูกค้า กระบวนการนี้ช่วยให้แน่ใจว่า การจัดเรียง คำสั่งซื้อของลูกค้าถูกต้อง มีโหมดการขนส่งที่เหมาะสม และส่งไปยังปลายทางถูกต้องและแม่นยำ

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

ทำไมการจัดการสินค้าถึงสำคัญสำหรับธุรกิจ?

การจัดการสินค้า มีบทบาทสำหรับในการจัดโครงสร้างและรับประกันว่าสินค้าจะส่งถือมือลูกค้าได้ตรงเวลา การจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ดีขึ้น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรที่จำเป็น และยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของคลังสินค้าเพื่อส่งมอบการบริการลูกค้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอีกด้วย แม้ว่าอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่การจัดการคลังสินค้าที่ดีขึ้นสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้มาก และเพิ่มผลผลิตของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain)

คลังสินค้าที่วางแผนไว้ไม่ดีมีปัญหาหลายประการ ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของธุรกิจ ดังต่อไปนี้:

  • การไม่วางแผนงานและความไม่ปะติดปะต่อของทีมบริหารและพนักงาน
  • โครงสร้างที่ตายตัว ไม่ยืดหยุ่น
  • ฐานข้อมูลไม่ถูกต้อง
  • สินค้าคงคลังที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
  • กระบวนการซ้ำซ้อน

ความท้าทายของการจัดการคลังสินค้า

การจัดการคลังสินค้านั้นซับซ้อน ซึ่งประกอบไปด้วย การจัดระเบียบ การจัดการ และการบำรุงรักษา การดำเนินงานในคลังสินค้า ถึงแม้จะมีการปรับให้เหมาะสม การจัดการคลังสินค้ายังต้อง เผชิญกับข้อผิดพลาดและความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงซึ่งส่งผลต่อความเร็ว ผลผลิต และประสิทธิภาพโดยรวมของห่วงโซ่ทั้งหมด แต่ในกรณีส่วนใหญ่ ซึ่งข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถระบุ ได้ทำให้เกิดความเสียหายในที่สุด ความท้าทายทั่วไปที่ส่งผลต่อการจัดการ มีดังนี้

การสะสมสต็อกส่วนเกิน

การจัดหาวัสดุสิ้นเปลืองจากหลายแหล่งโดยไม่มีระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับการติดตามส่งผลให้เกิดการสะสมของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม แม้ในบางกรณี การจัดเก็บสต็อกจากแหล่งเดียว ในบางครั้งอาจเกินระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้

ความซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้น

เมื่อคลังสินค้าที่ไม่ได้รับการวางผังล่วงหน้า จะทำให้ปัญหาอื่นๆ ตามมา หากธุรกิจไม่มีสถานที่จัดเก็บสินค้าที่เหมาะอาจทำให้ปัญหาตามมา เช่น เกิดอุบัติเหตุในการทำงาน การจัดการเวลาที่ไม่ถูกต้อง ประกอบกับต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมที่ล้มเหลว

ความสามารถในการตรวจสอบต่ำ

การจัดการฐานข้อมูลด้วยตนเองของธุรกิจ ทำให้การเชื่อต่อของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ต่ำหรือ ไม่มีการเชื่อต่อกันเลย ซึ่งทำให้สูญเสียการควบคุมสินค้า

หน่วยประมวลผลคำสั่งซื้อไม่ถูกต้อง

การจัดการคำสั่งซื้อเป็นการดำเนินการหลักในคลังสินค้า และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการรายงาน ข้อผิดพลาด ดังนั้น การจัดการคำสั่งซื้อที่ไม่เหมาะสมทำให้กระบวนการทั้งหมดล้มเหลว เสียเวลา ทรัพยากร และเงินจำนวนมาก

ความซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

การดำเนินการหลายอย่างรวมๆกันทำให้เกิดวงจรของกระบวนการทำงานทางธุรกิจ หากกระบวนการไม่ได้รับการจัดระเบียบอย่างดี จะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนที่จะส่งผลให้เกิดค่าแรงส่วนเกิน พร้อมกับเวลาดำเนินการนานขึ้น บริษัทขนาดใหญ่มักจะเผชิญกับความท้าทายนี้มากกว่าหน่วยงาน ขนาดเล็กที่มีพื้นที่สำหรับข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย

ขาดการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

คลังสินค้าที่ได้รับการดูแลไม่ดีทำให้การควบคุมสินค้าคงคลังเป็นไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ผลวิจัยฉบับหนึ่งชี้ให้เห็นว่าประมาณ 43% ของธุรกิจขนาดเล็ก ไม่มีกระบวนการที่เพียงพอในการติดตามสินค้าคงคลัง หรือใช้วิธีการจัดการด้วยตนเอง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ การขาดการจัดการคลังสินค้าที่เหมาะสม ทำให้เกิดการคำนวณผิดพลาดที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลต่อการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain)

การจัดการฐานข้อมูลไม่ดี

การคาดการณ์ความต้องการ เป็นหนึ่งในแง่มุมที่สำคัญของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากธุรกิจไม่มีฐานข้อมูลที่เหมาะสมในคลังสินค้า จะทำให้ธุรกิจนั้นๆ ขาดการคาดการณ์ตลาดสำหรับธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ไม่พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของตลาด

ระบบ Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ   ระบบ Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  

ระบบ Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  

Home ระบบ Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จัดการออเดอร์ได้ไม่มีตกหล่น จัดส่งทันใจลูกค้าในเวลานี้ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากผู้คนต่างกันหันมาช้อปปิ้งออนไลน์ จึงทำให้คนทำธุรกิจต้องปรับตัวไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ธุรกิจหลายๆ เจ้าก็เปลี่ยนการค้าขายผ่านหน้าร้านมาเป็นช่องทางออนไลน์แทนตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีมูลค่า 33.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ มุ่งหน้าธุรกิจไปกับ Locad Home ระบบ Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จัดการออเดอร์ได้ไม่มีตกหล่น…

การควบคุมความเสียหายไม่มีประสิทธิภาพ

แน่นอนความเสียหายของผลิตภัณฑ์เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการจัดการคลังสินค้า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าคงคลังจำนวนมากและอุปกรณ์หนักๆ มักจะได้รับความเสียหายมากขึ้น การไม่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นและมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ป้องกันชั้นวางสินค้า ตาข่ายสำหรับชั้นวาง ราวกันตก เทปกันลื่น ระบบสายพานลำเลียง และอื่นๆ อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

ประโยชน์ของการจัดการคลังสินค้า

การจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพจำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจ และเป็นประโยชน์ สำหรับการจัดการพนักงาน อีกทั้งยังมีกระบวนการทำงานที่เหมาะสม ที่มาช่วยเพิ่มพื้นที่ทางกายภาพในระดับต่างๆ

ประโยชน์การจัดการคลังสินค้ามีดังนี้:

การจัดการสินค้าในคงคลังดีขึ้น

การจัดการคลังสินค้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมองเห็นความถูกต้องแม่นยำ และดำเนินการสินค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถประมาณค่าใช้จ่าย ลดความสิ้นเปลือง หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดต่างๆ รวมไปถึงการค้างส่งสินค้าอีกด้วย

แรงงานที่มีทักษะ

ระบบการจัดการคลังสินค้าจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรส่วนบุคคล ช่วยให้การมอบหมาย แจกแจงงานที่เหมาะสมให้กับบุคคลากรในธุรกิจของคุณ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพ และทักษะการทำงานของพวกเขาอีกด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานซัพพลายเชน

ปรับระบบการจัดการคลังสินค้าให้เหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมซัพพลายเชน ช่วยให้กระบวนการทั้งหมดคล่องตัว ตั้งแต่การจัดส่งสินค้าขาเข้าไปจนถึงขาออก เมื่อคลังสินค้ามีความเป็นระเบียบ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น จะทำให้ลดความเสี่ยง ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และ เพิ่มความน่าเชื่อถือในทุกๆ ขั้นตอนของซัพพลายเชน

รองรับการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับธุรกิจ

ความต้องการของตลาดแปรผันอยู่ตลอดเวลา คลังสินค้าจึงทำให้หน้าที่เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าไว้ใช้งานในอนาคต บางครั้งการสั่งซื้อสินค้าก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ฤดูกาล นโยบายของรัฐบาล อัตราการจ้างงาน รายได้ เป็นต้น การจัดเก็บสินค้าเพื่อใช้ในภายหลังตามความต้องการของตลาดจะช่วยในการรักษาเสถียรภาพของราคาและลดการสูญเสียรายได้

การบริหารความเสี่ยงอย่างยั่งยืน

การจัดการคลังสินค้าที่ดีขึ้นช่วยลดความเสี่ยงให้กับธุรกิจ ช่วยป้องกันความผันผวนของราคา เนื่องจากคลังสินค้ามีการจัดเก็บสินค้าที่ปลอดภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ สินค้าในคลังสินค้ามักจะได้รับการประกัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมจากอุบัติเหตุทุกประเภท

เพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่จัดเก็บ ลดขั้นตอนการกำเนินงานในธุรกิจ

ระบบการจัดการคลังสินค้าที่มาพร้อมกับการวิเคราะห์ที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องของคลังสินค้าให้พร้อมใช้งาน ทำให้ธุรกิจมีระบบการจัดการสินค้าที่ใช้งานได้จริง และมีพื้นที่การจัดเก็บสินค้ามีการปรับให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้ายวัสดุมากจนเกินไป ตำแหน่งการจัดวางสินค้าที่ไม่เป็นระบบระเบียบ และลดเวลาการจัดการคลังสินค้าที่เนิ่นนาน รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานอื่นๆอีกด้วย

เห็นสินค้าในคงคลังได้ดียิ่งขึ้น

สามารถตรวจสอบวัสดุของคลังสินค้าได้อย่างง่ายดายด้วยกระบวนการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพดังนั้น ระบบการจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติจะช่วยลดความซ้ำซ้อน ช่วยให้สินค้าคงคลังมีความแม่นยำ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ และการบำรุงรักษาบริการในอนาคต

การจัดส่งมีประสิทธิภาพ

เนื่องจากระบบขนส่งสินค้า (Logistics) ขาเข้าและขาออกเชื่อมโยงกับคลังสินค้าโดยตรง การจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพจึงสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง และลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด

ปรับปรุงการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

การจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจส่งมอบและกระจายสินค้าไปยังลูกค้าได้ตรงเวลา นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มผลผลิต และความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

จะปรับปรุงการจัดการคลังสินค้าอย่างไร

คลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพมีบทบาทสำคัญในการจัดโครงสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนโดยรวม

วิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้า มีดังต่อไปนี้

เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่คลังสินค้าโดยรวม

แทนที่จะขยายคลังสินค้าที่มีอยู่ จะดีกว่าไหม ถ้าเรามีกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าที่ดีขึ้น เช่นการใช้พื้นที่แนวตั้ง การเพิ่มหน่วยจัดเก็บที่สูงขึ้น หรือการใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เป็นต้น แนวทางเหล่านี้จะทำให้โครงสร้างคลังสินค้าดียิ่งขึ้น

การใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) หรือระบบ ERP (การวางแผนทรัพยากรองค์กร) มีโหมด WMS ซึ่งมีประสิทธิภาพสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยระบบการจัดการอัตโนมัติ ด้วยกระบวนการแบบแมนนวลที่ต่ำกว่า คลังสินค้าจะสะอาดขึ้น มีระเบียบมากขึ้น และมีประสิทธิภาพโดยมีข้อผิดพลาดลดลง

ระบบลีน (Adopt Lean Inventory)

การนำระบบสินค้าคงคลังแบบลีนมาใช้ จะช่วยลดต้นทุน เพราะสต็อกที่ลดลงตามความต้องการ

ลดความซับซ้อนของการจัดการคลังสินค้า

เลย์เอาท์ของคลังสินค้าโดยรวยส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของบริษัท การอำนวยความสะดวกของการปฏิบัติงาน องค์กร การเข้าถึง และกระบวนการต่างๆ จะทำให้สเกลพนักงานมีขนาดเล็กลงและไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

สินค้าคงคลังคืออะไร?

การจัดการสินค้าคงคลังเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการภายใน เช่น การพยากรณ์ความต้องการ การวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน การควบคุมสินค้าคงคลัง และการขนส่งย้อนกลับ

การจัดการสินค้าคงคลังเป็นขั้นตอนแรกของการจัดการคลังสินค้า มันเกี่ยวข้องกับเครื่องมือเช่นสต็อกความปลอดภัย ต้นทุนของสินค้า จำนวนการสั่งซื้อ การหมุนเวียนสินค้าคงคลัง การจัดหาสินค้าคงคลัง ฯลฯ

การจัดการสินค้าคงคลัง VS การจัดการคลังสินค้า ต่างกันอย่างไร

การจัดการสินค้าคงคลังและการจัดการคลังสินค้า แต่ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือความซับซ้อน แม้ว่ากระบวนการจัดการสินค้าคงคลังจะค่อนข้างเรียบง่ายและกว้างในที่เดียว แต่ระบบการจัดการคลังสินค้านั้นซับซ้อนกว่าและแบ่งออกเป็นกระบวนการย่อยและส่วนย่อยหลายส่วน

จะมาอะไรบ้างไปดูกัน!

กระบวนการจัดการโลจิสติกส์เชิงบูรณาการ (Integration)

การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory management) เป็นขั้นตอนแรกของระบบการจัดการสินค้าทั้งหมด ในขณะที่การจัดการคลังสินค้า (Warehouse management) หมายถึง การจัดการคลังสินค้าภาพใหญ่ขึ้นของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งหมด เพื่อให้ระบบมีความคล่องตัวในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหา

การจัดการสินค้ามีเครือข่ายที่ซับซ้อน ธุรกิจต่างๆ จึงมีโอกาสที่จะ ปรับปรุง และพัฒนาการจัดการคลังสินค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่การจัดการสินค้าคงคลังไม่สามารถทำได้

ตัวระบบ

ระบบการจัดการสินค้าคงคลังทำหน้าที่เพียงแค่ เก็บข้อมูลและปริมาณของสินค้าต่างๆ ในสต็อก ส่วนระบบการจัดการสินค้าจะช่วยตรวจจับตำแหน่งของพัสดุในขณะทำการจัดส่ง และควบคุมการปฏิบัติงานภายในองค์กรให้เป็นระบบเรียบอีกด้วย

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

หลักการบริหารจัดการคลังสินค้า

หลักการบริหารจัดการคลังสินค้าช่วยทุ่นแรงให้กับธุรกิจ คุณสามารถโฟกัสในส่วนอื่นที่สำคัญของธุรกิจได้ หลักการจะมีอะไรบ้างไปชมกัน!

กำหนดวัตถุประสงค์

การจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานของคลังสินค้า มีประสิทธิภาพ

ขับเคลื่อนระบบคลังสินค้าขิงคุณด้วย Data-driven

ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ปรับให้เหมาะสมช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุและวิเคราะห์ในส่วนที่ต้องปรับปรุง การขับเคลื่อธุรกิจด้วยข้อมูล หรือ Data-driven จะทำให้ซัพพลายเชนของคุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ และดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา

การบริการลูกค้า

การบริหารลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ จะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าได้รับความพึงพอใจในการบริการ เก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าได้ถูกต้อง ปลอดภัย และตรงเวลา

มีระบบที่ครอบคลุม

การจัดการคลังสินค้านั้นซับซ้อน มีการประสานงานหลายภาคส่วน ดังนั้นผู้ให้บริการด้านการจัดการคลังสินค้า รวมถึงธุรกิจเอง จะต้องติดตามในทุกๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่ากระยวนการทั้งหมดของซัพพลายเซนราบรื่น ไม่มีปัญหา และถูกต้องตามคำสั่งซื้อ

ความยืดหยุ่น

เนื่องด้วยตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ระบบการจัดการสสินค้าต้องมีความยืดยุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจ ดังนั้นผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าจำเป็นต้องปรับตัว และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

การเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้า

การเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้า หมายถึง การรวบรวมกระบวนการต่างๆโดยรวม เพื่อหาวิธีดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในการบริหารจัดการคลังสินค้า ตั้งแต่การจัดการคำสั่งซื้อ จัดเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าไปยังปลายทาง และการบริการความพึงพอใจให้กับลูกค้า

การเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้านั้นสำคัญ!

คลังสินค้า ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง ความต้องการซื้อและความต้องการขายในธุรกิจนั้นๆ การจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลเสียในทุกๆ ขั้นตอนของซัพพลายเชน ตั้งแต่การขายไปจนถึงการบริการลูกค้า ถ้าสภพแวดล้อมเป็นระเบียบและเหมาะสมจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและผลกำไรได้ให้กับธุรกิจได้

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

ประโยชน์ของการเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้า

ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า อาจค่อนข้างใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ผลรับที่ได้คือความคุ้มค่านั่นเอง

การรักษาลูกค้า

เมื่อคลังสินค้ามีระบบและระเบียบ คุณจะให้เวลาในการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อน้อยลงและแทบไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ดังนั้นปัญหาที่นำไปสู่ความไม่พอใจของลูกค้าจะลดลงตามไปด้วย

ปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ให้ดีและเติบโตยิ่งขึ้น

อยากให้ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำอย่างไร? คุณต้องพิจารณาถึงผลที่ตามมาของการจัดการคลังสินค้า ภายในธุรกิจคุณ การจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาะ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเลือกเทคโนโลยี บริษัทขนส่งสินค้า และตัวเลือกการจัดส่งที่เหมาะสมได้ เพื่อให้การทำงานของสินค้าคงคลังรวดเร็วทันใจ และตอบสนองความต้องการของตลาด

การใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อธุรกิจมีระบบเก็บข้อมูลอัตโนมัตที่ดีขึ้น ช่วยให้ธุรกิจคาดการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ สามารถปรับขนาดสต็อก ขึ้นลงได้ง่ายขึ้นตามข้อกำหนดโดยมีของเสียน้อยที่สุด

กลยุทธ์การจัดการคลังสินค้า

ในการสร้างกลยุทธ์เพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพของการจัดการคลังสินค้า จะต้องพิจาณาปัจจัยดังต่อไปนี้คือ ขนาด ประเภท และปริมาณการสั่งซื้อของสินค้านั้นๆ ซึ่งเป้นผลดีต่อตัวธุรกิจ จะช่วยให้การดำเนินการต่างๆ รวดเร็วยิ่งขึ้น จัดส่งรวดเร็ว ลดขอเสีย และพร้อมปรับปรุงบริการด้านความพึงพอใจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

กลยุทธ์การจัดการคลังสินค้าอย่างประสิทธิภาพสูงสุด จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!

หยิบสินค้าแบบจัดกลุ่ม (Batch Picking)

ด้วยวิธีนี้ คำสั่งซื้อหลายๆ รายการจะถูกรวบรวมเป็นหมวดหมู่ พนักงานผู้จัดการในส่วนนี้จะ ไม่ต้องไปที่คลังสินค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินงานของแต่ละรายการสินค้า เช่น การคัดแยกสินค้าตามคำสั่งซื้อ

FEFO (First Expired First Out)

First Expired First Out เป็นเทคนิคที่จะคำนึงถึงอายุของสินค้า ผู้หยิบสินค้าจะแพ็คสินค้าตามวันหมดอายุของ สินค้าก่อนหลัง ซึ่งสินค้าที่จะหมดอายุก่อนจะถึงจัดส่งเป็นลำดับแรก

ระบบ Software Implementation

เทคโนโลยีมีความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า การใช้ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ ทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการหยิบสินค้า และลดปัญหาต่างๆ พร้อมกับสร้างรายได้ได้มากขึ้น

การหยิบสินค้าแบบแบ่งเขต (Zone Picking)

พนักงานที่ทำหน้าที่หยิบสินค้าแต่ละคน จะมีพื้นที่ความรับผิดชอบของตัวเอง โดยไม่ทับซ้อนหน้าที่ของผู้อื่น ไม่ต้องดูแลสินค้าทุกรายการในใบสั่งซื้อ

FIFO (First In First Out)

First-in First-out System (FIFO) คือ การบริหารจัดการคลังสินค้าตามลำดับ สินค้าไหนมาในคลังก่อน สินค้านั้นก็จะถูกจัดส่งออกไปตามคำสั่งซื้อก่อนตามวันที่รับสินค้า ป้องกันความเสื่อมสภาพจากการจัดเก็บไว้เป็นเวลานาน

การตรวจสอบและการรายงานคลังสินค้า

การตรวจสอบระบบการจัดการคลังสินค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือที่เรียกว่า Key Performance Indicator (KPI) ทำให้เรารู้ว่าส่วนไหนของคลังสินค้าหรือตัวระบบต้องได้รับการพัฒนา ศึกษาปัญหาเฉพาะจุด เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้าให้ดูยิ่งขึ้น และช่วยเติมเต็มให้ธุรกิจวางใจในเรื่องการจัดเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้า ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและแม่นยำ

การวัด KPIs ในคลังสินค้า

ตัววัดประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า มีดังนี้:

Receiving Efficiency and Productivity ประสิทธิภาพและประสิทธผลของคลังสินค้า

เป็นการคำนวณปริมาณของสินค้าที่ได้รับต่อ 1 ชั่วโมงของการดำเนินงานในคลังสินค้า

เวลาในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ

เวลาทั้งหมดที่ใช้สำหรับการสั่งซื้อเพื่อเข้าถึงลูกค้าเมื่อมีการวางคำสั่งซื้อ

อัตราหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover)

เป็นการคำนวณอัตราส่วนที่วัดความสามารถในการขายสินค้าคงเหลือ จะวัดจากการเปลี่ยนเเปลงสินค้าที่เหลืออยู่ในเวลาที่กำหนด ธุรกิจจะได้รู้ว่าจะต้องใช้เวลากี่วันให้การขายสินค้า

ความถูกต้องแม่นยำในการหยิบสินค้า

คำนวณจำนวนสินค้าถูกต้องและแม่นยำตามคำสั่งซื้อทั้งหมด

อัตราการส่งคืนสินค้า

อัตราที่ลูกค้าส่งคืนสินค้าที่ขายตามจำนวนสินค้าที่ขาย

ประโยชน์ของ Outsourcing Warehouse Management

การจัดการคลังสินค้าเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงและทรัพยากรมนุษย์จำนวนมาก

แน่นอน บริษัทใหญ่ๆ อาจมีโครงสร้างการจัดการคลังสินค้าภายในองค์กร แต่กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดเล็ก หลายๆ แห่งไม่สามารถจัดการในส่วนนี้ได้ จึงต้องผู้ให้บริการคลังสินค้าจากภายนอก หรือ ที่เราเรียกว่า Third-Party Logistic Provider (3PL) หรือ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์บุคคลที่สามนั่นเอง

ผู้ให้บริการ 3PL จะเสนอกลยุทธ์ให้กับธุรกิจคุณดังต่อไปนี้

ปรับการจัดการโลจิสติกส์เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

เนื่องจากผู้ให้บริการ 3PL ทำงานกับบริษัทหลายแห่งพร้อมกันในวงกว้าง พวกเขาจึงมีความเชี่ยวชาญเชิงโครงสร้างเพื่อเก็บรักษาข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับการวิเคราะห์ ข้อมูลที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องนี้ช่วยให้พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้น ลดต้นทุนในการขนส่ง เวลาขนส่งที่ลดลง และประสบการณ์ในการจัดส่งที่ดีขึ้น

ช่วยการจัดการพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันนี้ธุรกิจต่างๆ จะมีทางเลือกในการจัดเก็บคลังสินค้าหลากหลายรูปแบบ ผู้ให้บริการ 3PL จะคิดค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วนที่ของการดำเนินการคลังสินค้าเท่านั้น ซึ่งช่วยให้คุณลดต้นทุน จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การบำรุงรักษาคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง

ประหยัดเวลา

พาร์ทเนอร์ที่ดีในการจัดการคลังสินค้า เป็นศรีแก่ธุรกิจ เพราะจะช่วยประหยัดเวลาในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็น การจัดเก็บ-แพ็ค-จัดส่ง และติดตามพัสดุว่าไปยังลูกค้าปลายทางอย่างปลอดภัยหรือไม่ เพราะฉะนั้นผู้ให้บริการ 3PL จะรับหน้าที่นี้ เพื่อให้คุณสามารถติดตามขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ดังกล่าวในเชิงลึกแบบเรียลไทม์และใช้ข้อมูลนี้ประกอบการตัดสินใจในอนาคตได้อีกด้วย

การบริหารจัดการคลังสินค้า สำหรับธุรกิจ

ระบบการจัดการคลังสินค้าคืออะไร?

ระบบการจัดการคลังสินค้า ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการปฏิบัติงานขั้นพื้นฐานในคลังสินค้า ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพจะให้ความโปร่งใสในการจัดเก็บสินค้า และช่วยเติมเต็มการจัดการซัพพลายเชนตั้งแต่หน่วยการผลิตไปจนถึงตลาดค้าปลีก

ระบบการจัดการคลังสินค้าถูกออกแบบมาอย่างครอบคลุม ให้ธุรกิจใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้วัสดุต่างๆ ทรัพยากรไหลเวียน ขจัดกระบวนการที่ธุรกิจต้องทำด้วยตนเอง และลดข้อผิดพลาดในการจัดการคลังสินค้าให้กับธุรกิจคุณ

ระบบการจัดการคลังสินค้า มีโครงสร้างเพื่อรองรับความต้องการโดยรวมของซัพพลายเชนทั่วโลก พร้อมทั้งช่วยคุณคิดกลยุทธ์ในการปรับปรุงการกระจายซัพพลายเชนและการบริการต่างๆของธุรกิจ

ระบบการจัดการคลังสินค้าให้คุณค่ากับธุรกิจอย่างไร?

ระบบการจัดการคลังสินค้า เป็นตัวกลางของโครงสร้างคลังสินค้า ทำหน้าที่ควบคุมและบริหารการทำเนินงานคลังสินค้า ตั้งแต่จัดเก็บสินค้าคงคลัง คัดแยกสินค้า เลือกหบสินค้า บรรจุภัณฑ์ ตรวจสอบ ตลอดจนการจัดการข้อมูล

คุณค่าที่ระบบการจัดการคลังสินค้าให้กับธุรกิจของคุณ มีดังนี้

  • เพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมการเคลื่อนย้ายและการจัดเก็บสินค้า
  • จัดการคำสั่งซื้อต่างๆ ด้วยความยืดหยุ่น
  • ปรับปรุงความถูกต้องและประสิทธิภาพของการจัดการคำสั่งซื้อ
  • เพื่มประสิทธิภาพการควบคุมการผลิต
  • ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
  • เสริมสร้างความปลอดภัย
  • ประสานงานด้วยระบบอัตโนมัติ
  • ปรับปรุงการจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น
  • ให้คุณติดตามกระบวนการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์
  • ปรับปรุงการบริการลูกค้าของคุรให้ดียิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่สำคัญของระบบการจัดการคลังสินค้า

คุณลักษณะและการทำงานของระบบการจัดการคลังสินค้าประกอบด้วย:

การวางเลย์เอาท์หรือผังคลังสินค้า (Warehouse Layout)

ใช้สถานที่ที่เหมาะสม มีขั้นตอนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ การจัดเก็บสินค้าคงคลังที่เป็นระบบระเบียบ และมีการจัดการคำสั่งซื้อที่ดียิ่งขึ้น

การบริหารจัดการพนักกงาน

มีการติดตามผลการปฏิบัติงานของพนักงานและบันทึกไว้เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต

การจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์

มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าสินค้าถูกจัดส่งไปยังลูกค้าปลายทางได้ถูกต้อง ปลอดภัย และตรงเวลา

การติดตามสินค้าคงคลัง

ด้วยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างเครื่องสแกนบาร์โค้ดหรือเครื่องอ่าน RFID การติดตามสินค้าคงคลังเลยไม่ใช่เรื่องยาก

การเลือกหยิบและบรรจุภัณฑ์

มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าได้จัดเรียงและบรรจุสินค้าอย่างถูกต้องก่อนทำการจัดส่ง

การรายงานผล

มีการบันทึกข้อมูลที่สำคัญในกระบวนการซัพพลายเชน และรายงานผลเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานต่างๆ และประกอบการตัดสินใจในอนาคตให้กับธุรกิจ

ประเภทของระบบการจัดการคลังสินค้า

ทุกๆธุรกิจใช้ระบบการจัดการคลังสินค้า โดยคำนึงถึงความจำเป็นและข้อกำหนดเฉพาะตัว ดังนั้นการรู้จักระบบการจัดการคลังสินค้าให้หลากหลายเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ตามขนาด ความต้องการ งบประมาณ และโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจนั้นๆ

ระบบการจัดการคลังสินค้าประเภทต่างๆ ได้แก่:

Standalone

ระบบพื้นฐานที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการคลังสินค้าเท่านั้น โดยไม่มีเครือข่ายที่ซับซ้อน ระบบนี้เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้า

On-Premise

เป็นระบบที่ต้องการทรัพยากรภายในมากขึ้นในการทำงาน สนับสนุน และบำรุงรักษา โดยปกติแล้วจะติดตั้งในฮาร์ดแวร์และเครือข่ายดั้งเดิมของบริษัทเพื่อให้ควบคุมประสิทธิภาพโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น

Cloud-Based Management

เป็นระบบการจัดการอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ไม่ต้องการ การซิงโครไนซ์ฮาร์ดแวร์ หรือ เซิร์ฟเวอร์ ระบบการจัดการบนเว็บนี้ใช้งานได้เร็วกว่า เข้าถึงได้ง่าย อัปเกรดได้ง่ายขึ้น และใช้งานง่าย สามารถปรับขนาดขึ้นและลงได้ตามความต้องการของธุรกิจ

Supply Chain Module

ระบบนี้ครอบคลุมทุกด้านของซัพพลายเชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดการผู้ขาย กระบวนการทางธุรกิจ การจัดการความเสี่ยง และคุณสมบัติด้านคลังสินค้าหลายอย่าง

ERP-Integrated

ระบบนี้เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพสูงสุดในการจัดหาโซลูชั่นการจัดการธุรกิจที่สมบูรณ์ เชื่อมต่อกับทุกแง่มุมของธุรกิจ ปรับปรุงกระบวนการแบบ end-to-end และให้ข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข้อมูลเดียว เกี่ยวกับการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ

บทสรุป

การนำระบบการจัดการคลังสินค้าไปใช้อาจเป็นเรื่องยากและมีค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ตามหากคุณมีการจัดสอนค้าที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง ดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้ถูกต้องและแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดต่างๆ และช่วยให้คุณปรับปรุงการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ คุณจะสามารถรับข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับค่าใช้จ่ายและลดความซับซ้อนต่างๆได้

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการคลังสินค้า

แสกนปุ๊บ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเราได้เลย!

คุณกำลังมองหาบริการคลังสินค้าเพื่อธุรกิจอยู่ใช่ไหม?

Locad นำเสนอบริการที่จะมาเติมเต็มธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับพรีเมียมสำหรับธุรกิจทุกขนาด เชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์กับผู้เชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าออนไลน์โดยเฉพาะ เพื่อลดต้นทุนการจัดส่ง เพิ่มเวลาขนส่ง และปรับปรุงความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้าได้แล้ววันนี้!

Exclusive benefits to ace your e-commerce game this 2023 with Locad’s desk calendar!