บริการคลังสินค้าสำหรับหยิบ-แพ็ค-ส่งคืออะไร ?
การให้บริการคลังสินค้าเพื่อหยิบ-แพ็ค-ส่ง หรือ Warehouse picking ถือว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการจัดการออเดอร์ที่เข้ามา โดยฝ่ายที่หยิบสินค้าในคลังสินค้านั้นจะรับสินค้าแต่ละรายการจากสถานที่จัดสินค้าไว้ตามความต้องการของลูกค้าหรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การเบิกสินค้าจากคลังสินค้าที่มีการจัดสินค้าไว้ เพื่อให้ผู้ขายสินค้านั้นสามารถนำสินค้าไปจัดส่งให้ลูกค้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่มีค่าใช้จ่ายสูง และยังใช้แรงงานมากที่สุดในกระบวนการจัดการคลังสินค้าอีกด้วย
การให้บริการคลังสินค้าสำหรับการหยิบออเดอร์คืออะไร ?
การให้บริการคลังสินค้าในการหยิบออเดอร์ หรือ Warehouse order picking จะมีความหมายคล้ายกับ การให้บริการคลังสินค้าเพื่อหยิบ-แพ็ค-ส่ง หรือ Warehouse picking เป็นขั้นตอนในการนำสิ่งของที่จำเป็นออกมาจากสินค้าคงคลัง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดส่ง โดยคำสั่งซื้อจะถูกส่งไปยังสถานที่จัดเตรียมสินค้าโดยเครื่องสแกนที่ระบุตำแหน่งของสินค้าชนิดนั้น ๆ
การหยิบสินค้าในคลังสินค้าถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในกระบวนการจัดการออเดอร์ เมื่อพนักงานได้รับคำสั่งซื้อที่คอนเฟิร์มแล้วมาจากคลังสินค้าแล้วนั้น ก็ถือว่าพวกเขานั้นได้เข้าใกล้อีกก้าวหนึ่งในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้านั่นเอง
กลยุทธ์ของ การเลือกเลือกคลังสินค้า ( Warehouse Picking)
การเลือกคลังสินค้าถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนแรกและขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับระบบจัดการและบริหารคลังสินค้าออนไลน์ และจำเป็นที่จะต้องทำอย่างถูกต้องในขณะที่ผู้เลือกคลังสินค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการหยิบสินค้าตามคำสั่ง ผู้จัดการหรือหัวหน้างานจะได้รับกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน
กลยุทธ์ทั้ง 4 อย่างของการเลือกคลังสินค้า ( Warehouse Picking) ที่คุณควรรู้
การหยิบสินค้าพร้อมๆ กันหลายคำสั่งซื้อ (Batch Picking) : การเตรียมคำสั่งซื้อหลายรายการในช่วงเวลาเดียวกัน เรียกว่า Batch Picking เมื่อปฏิบัติตามกลยุทธ์นี้สำหรับการเบิกสินค้าในคลังสินค้า เครื่องมือหยิบใบสั่งซื้อของคลังสินค้าจะรวบรวมใบสั่งหลายรายการจากลูกค้าที่แตกต่างกัน หรือตามความต้องการของการผลิตในการเดินทางครั้งเดียว ซัพพลายเชนที่มีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงได้มีการรายานว่าเกือบ 50% ของเวลาที่ใช้ในการเบิกสินค้าหมดไปกับการเดินเลือกหยิบสินค้า ดังนั้นกลยุทธ์การหยิบสินค้าพร้อมๆ กันหลายคำสั่งซื้อ (Batch Picking) ดำเนินการโดยหัวหน้า จึงทำให้ประหยัดเวลาในการเดินเลือกหยิบสินค้าโดยการเลือกคำสั่งซื้อหลายรายการพร้อมกันในคราวเดียว กลยุทธ์ การหยิบสินค้าพร้อมๆ กันหลายคำสั่งซื้อ (Batch Picking) จะมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับคลังสินค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีลูกค้าทีหลากหลายที่สั่งซื้อสินค้าที่แตกต่างกันไป รถเข็นคลังสินค้าแบบแบ่งส่วนควรจะถูกนำมาใช้ในกลยุทธ์นี้ซึ่งสามารถที่จะเก็บสินค้าจำนวนมากในคลังสินค้า และเครื่องมือเลือกคลังสินค้าสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้ตามลำดับ
การหยิบสินค้าเป็นโซน (Zone Picking) : การใช้กลยุทธ์แบบหยิบสินค้าเป็นโซน หรือ Zone Picking นั้นจะถูกเอาไปใช้เมื่อมีสินค้าหลายประเภทที่ต้องการเก็บไว้ในคลังสินค้า ซึ่งในกรณีนี้ พนักงานในคลังสินค้าจะได้รับการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบไปตามคำสั่งซื้อที่เข้ามา และด้วยความพร้อมของระบบคลังสินค้าอัตโนมัติจะช่วยให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถแบ่งสิ่งอำนวยความสะดวกออกเป็นโซน โดยจัดตามรายละเอียดและประเภทของสินค้า ความต้องการของสินค้า หรือเกณฑ์อื่น ๆ
การหยิบสินค้าแบบคลื่น (Wave Picking) : ด้วยกลยุทธ์นี้ พนักงานที่ทำหน้ารับใบสั่งซื้อจะทำหน้าเดินหยิบสินค้าไปตามที่ที่จัดวางสินค้าไว้โดยรอบ โดยจะหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้าแต่ละรายการที่ต่างประเภทกัน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมการทำงานของหัวหน้าหรือผู้จัดการคลังสินค้า ดังนั้น การหยิบสินค้าแบบคลื่น หรือ Wave Picking เรียกอีกอย่างว่า เป็นกลยุทธ์ที่รวมการหยิบสินค้าเป็นชุด และหยิบเป็นโซน คลังสินค้านั้นควรมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะสามารถเตรียมสินค้าแต่ละรายการตามคำสั่งซื้อได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ อุปกรณ์พวก เครื่องสแกนบาร์โค้ด จะามารถช่วยให้พนักงานแพ็คสินค้าให้กับลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเลือกหยิบสินค้าด้วยเสียง (Voice Picking) : การเหลือกหยิบสินค้าด้วยเสียง เป็นกลยุทธ์ที่ใหม่ที่สุดสำหรับการหยิบคำสั่งซื้อสินค้าที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด พนักงานหยิบสินค้าจะมีอุปกรณ์อยู่ที่ข้อมือมาพร้อมกับหูฟัง คำสั่งซื้อสินค้าจะปรากฏอยู่บนอุปกรณ์ที่ข้อมือ โดยจะเลือกคำซื้อตามลำดับจากคลังสินค้า การเลือกหยิบสินค้าด้วยเสียง (Voice Picking) สามารถทำงานได้ดีกับกลยุทธ์อื่น ๆ เนื่องจากมันสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการมองเห็นข้อมูลสำหรับการเลืกหยิบสินค้า ดังนั้น การเลือกหยิบสินค้าด้วยเสียงนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยกลยุทธ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
กลยุทธ์การเลือกคลังสินค้าในการเลือกหยิบสินค้าแบบผสมผสาน
เพื่อปรับปรุงคลังสินค้าในการเลือกหยิบสินค้า (wearhouse picking) ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ที่เชี่ยวชาญควรที่จะรวบรวม 2 กลยุทธ์ หรือมากกว่า ในวันนี้เรามีกลยุทธ์การเลือกคลังสินค้าในการเลือกหยิบสินค้าแบบผสมผสานมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เราไปดูกันเลย !
การหยิบสินค้าเป็นโซน – หยิบเป็นชุด : โครงสร้างแบบไฮบริดจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีการรวมการหยิบสินค้าเป็นโซน – หยิบเป็นชุดเข้าด้วยกัน ซึ่งพนักงานในคลังสินค้าจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการหยิบสินค้าในโซนที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยโครงสร้าแบบผสมผสานนี้จะทำงานได้อย่างเต็มที่เมื่อมีคลังสินค้าขนาดใหญ่ และมีออเดอร์ที่เหมาะสม
การหยิบสินค้าเป็นโซน – หยิบเป็นคลื่น : ในการหยิบสินค้าแบบเป็นโซนนั้น คลังสินค้าจะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ และแต่ในโซนจะมีการกำหนดว่าใครจะได้เป็นคนหยิบสินค้าตามออเดอร์ ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีความต่างกันออกไป ทีนี่ เลือกใช้กลยุทธ์แบบการหยิบสินค้าเป็นคลื่นภายในโซนสินค้า เพื่อที่จะได้ตอบสนองความต้องการในการจัดการออเดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การหยิบสินค้าเป็นโซน – หยิบเป็นชุด – หยิบเป็นคลื่น : วิธีนี้เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างจะซับซ้อนมีการรวม 2 กลยุทธ์เข้าไว้ด้วยกันโดยมี หยิบสินค้าเป็นโซน – หยิบเป็นคลื่น ตามลำดับ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ใช้ได้ดีที่สุดในคลัวสินค้าที่มีขนาดใหญ่ และมีคำสั่งซื้อที่เข้ามาหลากหลายประเภทไม่เหมือนกัน ที่นี่ คนที่หยิบสินค้าในคลังสินค้าจะได้อยู่ในโซนที่ตัวเองได้รับผิดชอบ โดยจะดำเนินการตามกระบวนการจัดการสินค้า โดยจะใช้กลยุทธ์แบบ หยิบเป็นชุด – หยิบเป็นคลื่น เมื่อจำเป็น เพราะว่าจะต้องรวบรวมคำสั่งซื้อหลาย ๆ ออเดอร์พร้อมกัน
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการให้บริการคลังสินค้าสำหรับหยิบ-แพ็ค-ส่ง
ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในสายงานไหน หรืออุตสาหกรรมแบบไหว แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการให้บริการคลังสินค้าสำหรับหยิบ-แพ็ค-ส่ง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของคุณ !
และนี่คือ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการให้บริการคลังสินค้าสำหรับหยิบ-แพ็ค-ส่ง ที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้
- จัดระเบียบคลังสินค้าของคุณและโฟกัสไปที่ขั้นตอนในการอำนวยความสะดวก
- สร้างกระบวนการการรับสินค้าที่มองเห็น หมายถึงการจัดส่งและตารางในการจัดส่งของพวกเขา
- ใช้กล่องแบ่งเมื่อเตรียมส่งคำสั่งซื้อที่มีฉลากเฉพาะ
- ลดเวลาในการเดินจากโรงงานไปยังคลังสินค้า
- ปรับสภาพแวดล้อมของสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
- เลือกกลยุทธ์ในการหยิบสินค้าในคลังสินค้าให้เหมาะสมตามคำสังซื้อและขนาดของคลังสินค้า
- ใช้เทคโนโลยีเสียงและหน้าจอตามความต้องการของคุณ เพื่อประหยัดเวลาและสามารถดูผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้
- จัดลำดับความสำคัญของสินค้าที่หยิบบ่อย เพื่อให้พนักงานคลังสินค้าสามารถรับสินค้าได้ตลอดเวลา
- เลือกใช้พื้นที่ที่มีการรวมกันระหว่าอุปกรณ์แบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ
- ลงทุนในระบบอัตโนมัติและจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูล (ASRS) เพื่อเป็นการลดต้นทุน
- จัดช่องและกลุ่มสินค้าคงคลังให้เหมาะสมเพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์สินค้าคงคลังได้
- สร้างกระบวนการจัดคืนสินค้า เพื่อที่จะช่วยจัดระเบียบไปได้อย่างรวดเร็ว
- แนะนำให้ใช้ automatic identification and data collection (AIDC) เอาไว้ตรวจสอบการสแกน
- ใส่สินค้าที่ลูกค้าทำการสั่งซื้อมาลงในกล่องพัสดุโดยตรง ไม่ต้องใส่ลงในกล่องพลาสติก่อน
- ใช้การวัด KPI เพื่อวัดถึงการทำงานและประสิทธิภาพของผู้ทำงาน
ทำไมถึงระบบ การให้บริการคลังสินค้าสำหรับการหยิบออเดอร์ จึงสำคัญ ?
การหยิบสินค้าในคลังสินค้าเป็นพื้นฐานหนึ่งในกระบวนการของการจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้า เมื่อลูกค้าทำการสั่งซื้อสินค้า สิ่งที่ลูกค้าหวังคือต้องการที่จะได้รับสินค้าโดยเร็วที่สุด ระบบการหยิบสินค้าในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการหยิบสินค้านั้นจะเป็นไปตามคำสั่งซื้อ และจะถูกจัดส่งไปอย่างราบรื่น
เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการจัดการคลังสินค้าซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เยอะมาก และส่งผลต่อระดับความพึงพอใจของลูกค้า จึงมีการปรับปรุงโดยเน้นไปที่ส่วนนี้โดยเฉพาะ
ดังนั้น ความสำคัญของระบบในการหยิบสินค้าจากคลังสินค้าจึงได้รับการระบุไว้อย่างละเอียด เนื่องจากมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้านั้นเสร็จได้ทันเวลารวดเร็วและแม่นยำ
ประเภทต่าง ๆ ของการให้บริการคลังสินค้าสำหรับการหยิบออเดอร์
มีแนวคิดที่เกี่ยวกับการให้บริการคลังสินค้าสำหรับการหยิบออเดอร์เยอะมาก และมี 4 กลยุทธ์ที่ได้ถูกกล่าวถึงไปแล้วในข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น การหยิบสินค้าพร้อมๆ กันหลายคำสั่งซื้อ (Batch Picking), การหยิบสินค้าเป็นโซน (Zone Picking), การหยิบสินค้าแบบคลื่น (Wave Picking) และการเลือกหยิบสินค้าด้วยเสียง (Voice Picking) ทั้งหมดนี้นอกจากจะเป็นกลยุทธ์แล้วยังเป็นประเภทของคำสังซื้ออีกด้วย
นอกจากประเภทของการให้บริการคลังสินค้าสำหรับการหยิบออเดอร์ทั้ง 4 ประเภทนี้แล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ อีก วันนี้เราจะมาบอกถึงวิธีอื่น ๆ กัน
การหยิบสินค้าตามคำสั่งเดียว (Single Order) : ในการหยิบสินค้าตามคำสั่งเดียวนั้น พนักงานจะทำการเลือกหยิบทีละคำสั่งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพียงรายเดียว ซึ่งในวิธีนี้จะใช้แรงงานเยอะ และใช้เวลานาน แต่ปรากฎว่าวิธีนี้จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ในคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ แต่จะได้ผลดีในคลังสินค้าขนาดเล็ก
การหยิบสินค้าทีละหลายรายการในครั้งเดียว (Cluster Picking) : การที่จะใช้วิธีหยิบแบบนี้จะใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องจัดการกับคำสั่งซื้อหลายรายการพร้อม ๆ กัน พนักงานหยิบสินค้าในคลังสินค้าจะเลือกสินค้าตามรายการที่จะต้องแพ็คและย้ายไปมาภายในคลังสินค้า จากนั้นจะวางไว้ในชั้นวางหรือตู้คอนเทนเนอร์ที่แยกต่างหาก ซึ่งแต่ละตู้ก็จะเกี่ยวกับคำสั่งซื้อแต่ละรายการ ซึ่งวิธีนี้จะประหยัดเวลาในการเดินทาง และสามารถบอกลาความจำเป็นในการจัดเรียงไปได้เลย เพราะพนักงานในคลังสินค้าทำเอง
การหยิบสินค้าแบบเป็นชุด (Multi-Batch Order Picking) : ระบบการหยิบสินค้าแบบเป็นชุดนั้นจะทำงานด้วยกลไก ผู้หยิบสินค้าในคลังสินค้าจะทำการหยิบทีละหลาย ๆ ชุด พร้อมกันเพื่อลดเวลาในการหยิบสินค้า ด้วยวิธีนี้ พนักงานหยิบสินค้ามักจะใช้รถยกขนาดใหญ่เพื่อเคลื่อนย้ายไปยังที่เก็บสินค้า และเลือกสินค้าที่ต้องการตามรายการหยิบสินค้า ซึ่งวิธีการแบบนี้ถือว่าประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยลดเวลาในการหยิบสินค้าและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย
วิธีการเลือกคำสั่งซื้อที่ผ่านการทดสอบแล้ว : ประเภทของคลังสินค้าที่ให้บริการการหยิบสินค้าที่กล่าวถึงไปข้างต้นเป็นวิธีที่ใช้ในการหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของคำสั่งซื้อและขนาดของคลังสินค้า
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนบางอย่างที่จำเป็นต้องใช้วิธีการเหล่านี้ :
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใส่วันที่จัดส่งและรับประกันให้กับลุกค้า
- ตรวจสอบให้แนใจว่าหน่วยในการผลิตของคุณอนุญาติให้มีสินค้าคงคลัง 100%
- ดำเนินการและวางแผนการขนส่งของคุณให้รอบคอบ และติดต่อกับพนักงานรับสินค้าของคุณอยู่เสมอ
- ตรวจสอบสินค้าตลอดเวลาเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงสถานะของสินค้าในปัจจุบัน
- ลงทุนในระบบอัตโนมัติอัจฉริยะเพื่ออำนวยความสะดวกในการหยิบสินค้าที่ถูกต้องและประหยัดเวลา
- ประเมิณเงินทุนให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจของคุณเพื่อการเติบโตของธุรกิจคุณ
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้เก็บบันทึกถึงข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อให้ได้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการหยิบสินค้าในคลังสินค้า
ประสิทธิภาพการหยิบสินค้าในคลังสินค้าจะเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาหยิบสินค้าในคลังสินค้าด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าวิธีในการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการหยิบสินค้าในคลังสินค้านั้นจะได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น แต่ก็ยังมีวิธีในการปฏิบัติอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยเช่นกัน มีดังนี้
- เมื่อแยกคำสั่งซื้อแต่ละครั้งออกจากคอนเทนเนอร์แล้วอย่ารวมปริมาณสินค้ากับรายการสั่งซื้อเข้าด้วยกัน หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการจัดส่งโดยตรวจสอบสินค้าก่อนส่งให้รอบคอบ โดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดหรือลักษณะคล้ายกันอย่างประนีประนอมกับวิธีการบางอย่างเพียงเพื่อที่จะต้องการประหยัดพื้นที่เพิ่มกำหนดเวลากับพนักงานหยิบสินค้าในการหยิบสินค้าตามรายการ เพื่อที่พนักงานหยิบสินค้าไม่จำเป็นต้องย้ายไปมาในคลังสินค้า
- สินค้าคงคลังควรจะมีความพร้อมอยู่เสมอ และต้องมีความฉลาดในการจัดการสินค้าคงคลัง
แยกและเลือกชั้นวางสินค้าให้เหมาะสมกับสินค้าตามรายการสั่งซื้อ - พื้นที่จัดเก็บสินค้าที่วางบนพื้นสามารถให้พนักงานในคลังสินค้าเดินหยิบสินค้าได้ ในขณะที่ชั้นวางแบบยกสูงสามารถให้พนักงานในคลังสินค้าที่ใช้รถเข็นหยิบได้
- ลงทุนใน radio frequency identification (RFI) เพื่อทำแผนที่ตำแหน่งสินค้าคงคลังและตำแหน่งในคลังสินค้า
- เลือกพื้นที่จัดเก็บสินค้าและพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับสินค้าคงคลังของคุณ
- ลดสินค้าที่ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวน้อย และกระตุ้นให้มีการลงทุนในอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
ระบบหยิบสินค้าในคลังสินค้าอัตโนมัติ
ระบบหยิบสินค้าในคลังสินค้าอัตโนมัติมักจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยทั่วไประบบนี้จะเป็นประโยขน์ต่อคลังสินค้าที่เพิ่งสร้างเสร็จ ตามที่กล่าวไปข้างต้น ระบบการหยิบสินค้าด้วยเสียงนั้นเป็นหนึ่งในเทคนิคการหยิบสินค้าในคลังสินค้าอัตโนมัติที่นำมาใช้
เรามาสำรวจระบบหยิบสินค้าอัตโนมัติที่ใช้กันทั่วไปนอกเหนือจากระบบหยิบสินค้าด้วยเสียง เริ่มด้วย :
ระบบหยิบสินค้าตามไฟ : ในวิธีนี้จะต้องติดตั้งไฟ LED และเครื่องสแกนบาร์โค้ดไว้บนชั้นวางของ เมื่อพนักงานทำการหยิบสินค้า จะทำการสแกนบาร์โค้ดบนสินค้า และรายละเอียดของสินค้าจะแสดง ทำให้สามารถแยกถึงความต่างของสินค้าบนชั้นวางได้
ระบบหยิบสินค้าโดยใช้เครื่องสแกนมือถือ : เพื่อให้ระบบนี้สามารถทำงานได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีบาร์โค้ดบนสินค้าทั้งหมดที่อยู่ในคลังสินค้า ด้วยระบบนี้ความถูกต้องของคำสั่งซื้อจะขึ้นอยู่กับพนักงานคลังสินค้าที่จะเลือกสินค้าค้าในรายการ และจะสแกนสินค้าตามรายการ หากพนักงานไม่หยิบสินค้าตามรายการจะมีแจ้งเตือนในโทรศัพท์มือถือของพนักงานว่าสินค้าไม่ได้อยู่ในรายการ
ร่วมมือทำงานกับระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่ : ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาในการทำงานด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉาะในงานด้านที่จะต้องใช้แรงงานคนในการหยิบสินค้าในคลังสินค้า หุ่นยนต์จะถูกใช้ในตำแหน่งที่หุ่นยนต์ถูกควบคุมและทำงานในลักษณะงานแบบแมนนวล เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมคลังสินค้าจะควบคุมหุ่นยนต์ให้วิ่งไปวิ่งมาในคลังสินค้าเพื่อรวบรวมคำสั่งซื้อตามรายการสินค้า ระบบนี้จะช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในการทำงานได้
จะเลือกวิธีการในการหยิบสินค้าสำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างไร ?
ในขั้นแรก คุณจะต้องวิเคราะห์ประเภทธุรกิจของคุณเพื่อเลือกวิธีการในการหยิบสินค้าตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่วิธีไหนจะเหมาะสมกับคุณนั้นมันขึ้นอยู่กับที่คุณตัดสินใจ
ถ้าหากคุณมีธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ต้องการคลังสินค้าขนาดใหญ่และมีคำสั่งซื้อที่หลากหลายจากลูกค้าที่ต่างกัน คุณสามารถเลือกวิธีการหยิบสินค้าแบบโซน หรือ คลื่น หรือจะผสมกับก็ได้ เพราะจะสามารถช่วยให้คุณตอบสนองความต้องการในการหยิบสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้
ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณมีธุรกิจขนาดเล็กมีคลังสินค้าที่เล็กหรือแคบมาก คุณสามารถใช้วิธีการหยิบสินค้าแบบจำนวนมากหรือหยิบเพียงครั้งเดียวได้เพื่อตอบสนองความต้องการในหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อ
อะไรที่ทำให้การหยิบสินค้าในคลังสินค้านั้นไม่มีประสิทธิภาพ ?
ความไม่มีประสิทธิภาพในการหยิบสินค้าในคลังสินค้านั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในการจัดการคำสั่งซื้อ และนี่คือเหตุผลหลักทั้ง 7 เหตุผล :
- สินค้าในคลังสินค้าจัดวางไม่เหมาะสม พนักงานในคลังสินค้าต้องใช้เวลาในการหาสินค้ามากขึ้น
- พนักงานในคลังสินค้าเลือกสินค้า หรือ กะปริมาณสินค้าผิด
- คำสั่งซื้อไม่ได้รับการจัดลำดับความสำคัญตามรายการที่เลือก
- การหยิบสินค้าที่ใช้แรงงานคนเป็นที่ต้องการมากกว่าการหยิบสินค้าที่ใช้เครื่องจักร
- ไม่มีตำแหน่งที่ชัดเจนสำหรับคำสั่งซื้อครึ่งหนึ่ง
- ไม่รักษาฐานข้อมูลที่เหมาะสมในการติดตามตำแหน่งที่ตั้งและปริมาณของสินค้าในสินค้าคงคลัง
- เลือกสิ้นค้าเพียงชิ้นเดียวในการสั่งซื้อแค่ครั้งเดียว นำไปสู่การเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
การดำเนินงานของคลังสินค้า : เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบสินค้า
เนื่องจากไม่มีกลยุทธ์หรือเทคนิคใดที่เหมาะสมไปกับทุกสถานการณ์จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการหยิบสินค้าให้มีความยืดหยุ่นมากที่สุด
เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานคลังสินค้า มาฝากกัน !
- การวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ
- การเลือกวิธีการหยิบสินค้าที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
- จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี เช่น เครื่องสแกนบาร์โค้ด และหุ่นยนต์ในการหยิบสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำด้วยความชาวยเหลือจากคอมพิวเตอร์และการจัดการฐานข้อมูล
- ลดความผิดพลาดในการป้อนข้อมูล เพื่อลดปัญหาในการหยิบสินค้าที่ไม่ถูกต้อง
นี่คือวิธีบางส่วนที่คุณสามารถนำไปใช้ในการดำเนินงานคลังสินค้าเพื่อปรับขั้นตอนในการหยิบสินค้าให้เหมาะสม
เคล็ดลับในการให้บริการการหยิบสินค้าตามออเดอร์
การหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อในคลังสินค้าเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการตามคำสั่งซื้อ เพื่อปรับปรุงระบบการหยิบสินค้าในคลังสินค้านั้น เรามีเคล็ดไม่ลับมาฝาก !
- วิเคราะห์การทำงานและความสำคัญของกระบวนการการหยิบสินค้าในคลังสินค้า
- ลองดูเครื่องมือขององค์กรคุณดูสิ
- เน้นลดระยะเวลาเดินทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพโดยการให้ความสนใจไปที่การปรับตัวของสภาพแวดล้อมกับเทคโนโลยีเพื่อให้เข้ากับคนทำงานได้ (ergonomics)
- จัดสรรพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าให้อย่างเหมาะสมและเลืกกลยุทธ์ให้อย่างชาญฉลาด
- พัฒนาเส้นทางในการหยิบสินค้าเพื่อจะได้ปรับปรุงกลยุทธ์ในการหยิบสินค้าของคุณ
- สร้างพื้นที่สินค้าคงคลังให้พร้อมใ้ช้งาน 100%
- ประเมิณระบบการจัดการคลังสินค้าของคุณอีกครั้ง
- หาข้อบกพร่องและแก้ไข
- เลือกใช้เครื่องมือ slotting ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
พนักงานในคลังสินค้าที่ช่วยหยิบสินค้าคืออะไร ?
เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบในการจัดกลุ่มและหยิบสินค้าตามรายการในใบคำสั่งซื้อ
ขั้นตอนในการหยิบสินค้าในคลังสินค้าคืออะไร ?
ขั้นตอนในการนำสินค้าที่ถูกต้องออกสำหรับการจัดการออเดอร์คือขั้นตอนในการหยิบสินค้าในคลังสินค้า โดยไม่ต้องนึกถึงวิธีที่คุณเลือกในการหยิบสินค้า
ทำไมถึงการหยิบสินค้าถึงมีความสำคัญกับการดำเนินการคลังสินค้า
การหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อที่ลูกค้าสั่งซื้อมานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะส่งผลให้การดำเนินการการหยิบสินค้าของคุณนั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการสั่งซื้อ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในท้ายที่สุด
หน้าที่ของพนักงานหยิบสินค้ามีอะไรบ้าง?
พนักงานหยิบสินค้าในคลังสินค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการหยิบและแพ็คออเดอร์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีหน้าทีรับผิดชอบในการโหลดสินค้าจากรถบรรทุก และดูแลคลังสินค้าให้เรียบร้อยอีกด้วย
แล้วเราจะปรับปรุงคลังสินค้าในการหยิบ-แพ็ค-ส่งได้ยังไงนะ ?
สามารถปรับปรุงได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เช่น รักษาช่องวางสินค้าอยู่ตลอดเวลา, ใช้กลยุทธ์ที่ต่างกันไป, เลือกวิธีการหยิบสินค้าในคำสั่งซื้อให้ถูกต้อง เป็นต้น