การหยิบสินค้า (Picking) และแพ็คสินค้า (Packing) เป็นขั้นตอนการจัดการคำสั่งซื้อ 

การจัดการคำสั่งซื้อที่ประสบความสำเร็จในตลาดอีคอมเมิร์ซไม่ใช่แค่ส่งสินค้าเสร็จแล้วจบ แต่มันเป็นเรื่องของการจัดเก็บสินค้า เลือกหยิบสินค้า แพ็คสินค้า จัดส่ง และดูแลเรื่องการคืนสินค้า ซึ่งจะควบคุมตั้งแต่ขั้นตอนก่อนและหลังส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางนั้นเอง ขั้นตอนการเลือกหยิบและแพ็คสินค้าเกิดขึ้นที่คลังสินค้าหลังจากที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาในระบบ ซึ่งทำเพื่อดำเนินการจัดส่งได้ถูกต้องและรวเร็วตามออเดอร์ที่เข้ามา 

วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเลือกหยิบและแพ็คสินค้ามาฝากผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย! 

Pick and Pack Fulfillment คืออะไร 

เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ทีมงานในคลังสินค้าจะเลือกหยิบสินค้าที่ได้จัดเก็บไว้ในคลัง ซึ่งเราเรียกขั้นตอนนี้ว่า Picking จากนั้นจึงเริ่มเเพ็คสินค้าตามคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งทั้งในประเทศและทั่วโลกซึ่งเราเรียกขั้นตอนนี้ว่า Packing ทั้งสองขึ้นตอนนี้ดูเหมือนง่ายนะ แค่เลือก จัดใส่กล่อง ติดฉลากแค่นั้นเอง แต่ที่จริงแล้วคุณจะต้องอาศัยคนงานจำนวนมากในการเก็บ-หยิบ-แพ็ค-ส่งสินค้าให้กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกหยิบสินค้า (Picking Orders) 

ขั้นตอนการหยิบสินค้าจะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าได้กดสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ในขั้นตอนนี้เราจะต้องโฟกัสไปที่ความปลอดภัยของสินค้าเป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน หลายๆ ธุรกิจหรือศูนย์บริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ได้นำเอาซอฟแวร์ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ทันสมัยและตอบโจทย์กับธุรกิจต่างๆ มาช่วยให้ให้งานง่ายขึ้น 

การแพ็คสินค้าเพื่อจัดส่ง 

หลังจากที่ทีมงานเลือกหยิบสินค้าจากชั้นวางสินค้าแล้ว ถึงเวลาแพ็คสินค้าใส่กล่องพัสดุหรือภาชนะที่เหมาะสมและติดฉลากที่มีข้อมูลผู้ส่งและลูกค้า บาร์โค้ดและเลขพัสดุให้เรียบร้อย 

กลยุทธ์การเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า 

ขั้นตอนการหยิบและแพ็คสินค้าก็เหมือนกับเวลาคุณจัดกระเป๋าเดินทาง เราจะต้องเลือกเสื้อผ้าจากตู้ จากนั้นพับและจัดเรียงในกระเป๋าเดินทาง แต่ถึงอย่างไรก็ตามทั้งสองขั้นตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากคุณเป็นธุรกิจเล็กๆ การหยิบสินค้าจากชั้นวางในคลังมาแพ็คครั้งต่อครั้งตามคำสั่งซื้อที่เข้ามา ออเดอร์มาก็ไปหยิบและจัดการทีนึงสามารถทำได้ แต่เมื่อธุรกิจของคุณขยับขยายใหญ่ขึ้น คุรจะต้องมองหาวิธีการเลือกหยิบและแพ็คสินค้าที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

เห็นแล้วใช่มั้ยว่าขั้นตอนการหยิบสินค้าและแพ็คสินค้านั้นสำคัญ ดังนั้นเราจึงลิสต์ประเภทของขั้นตอนการเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้ามาแบ่งปัน! 

ประเภทของการหยิบสินค้า (Picking) 

หยิบตามคำสั่งซื้อ 

การหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อ เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดและเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก  ซึ่งก็คือการที่พนักงานไปหยิบสินค้าจากชั้นวางของหลังจากมีออเดอร์เข้ามา ซึ่งจะหยิบมารายการที่อยู่ในออเดอร์นั่นเอง แต่ข้อเสียคือมันทำให้เกิดความล่าช้า ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม 

หยิบตามหมวดหมู่ 

วิธีนี้จะคล้ายๆ กับการหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อ แต่มีประสิทธิภาพมากกว่า พนักงานในคลังสินค้าจะหยิบสินค้าจากชั้นวางของได้สะดวกและง่ายขึ้น พวกเขาสามารถรวมคำสั่งซื้อหลายๆ ใบไว้ในคราวเดียวกันได้เลย ไม่ต้องหยิบทีละรายการ ยกตัวอย่างเช่น พนักงานจะรวมสินค้าที่เหมือนกันไว้ด้วยกัน แยกเป็น 10 ออเดอร์ จากนั้นพวกเขาจะหยิบสินค้าทีเดียว 10 ชิ้นตามออเดอร์ที่แยกไว้เพื่อนำไปคัดแยกให้ลูกค้าในขั้นตอนต่อไป 

หยิบตามโซน 

วิธีนี้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิมากที่สุด พนักงานจะหยิบสินค้าตามโซนการจัดเก็บ เหมาะสำหรับคลังสินค้าที่มีหลายโซน เช่น โซนชั้นวางทั่วไป หรือ โซนห้องเย็น เป็นต้น เมื่อออเดอร์เข้ามา พนักงานจะกระจายไปดุแลแต่ละโซน พวกเขาจะหยิบพร้อมกันในทุกๆ โซนจนครบ โดยมีสายพานเป็นตัวช่วยลำเลียงสินค้าไปยังขั้นตอนต่อไป

หยิบแบบคลื่น

หากคุณมีธุรกิจขนาดใหญ่ ออเดอร์ล้นมือ วิธีการหยิบสินค้าแบบคลื่นนั้นน่าสนใจ ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่างการหยิบตามหมวดหมู่กับการหยิบตามโซน คำสั่งซื้อจะถูกจัดกลุ่มตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความถี่ในการสั่งซื้อ ที่อยู่ของลูกค้า ประเภทคำสั่งซื้อ โซนการหยิบสินค้า วันและเวลาจัดส่ง ความถี่ในการสั่งซื้อสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย วิธีนี้ก็ช่วยให้การดำเนินการสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น 

หยิบตามคำสั่งซื้อที่มีหลายๆ รายการ 

การหยิบสินค้าประเภทนี้จะถูกใช้กับธุรกิจที่มีออเดอร์หลายรายการเข้ามาพร้อมๆ กัน พนักงานจะเลือกหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อที่มีหลายๆ รายการ และนำมาใส่กล่องแยกเอาไว้โดยไม่จำเป็นต้องคัดแยกแต่ละออเดอร์ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาได้จัดเรียงและแยกสินค้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว 

ประเภทของการเเพ็คสินค้า

การแพ็คพัสดุ หรือ การบรรจุหีบห่อ (Packaging) เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเก็บ-แพ็ค-ส่งในตลาดอีคอมเมิร์ซ การแพ็คสินค้ามีหลายรูปแบบให้เราเลือก ดังนั้นเลือกประเภทที่เหมาะกับสินค้านั้นๆ 

วันนี้เรามีการแพ็คสินค้า 3 ประเภทมาฝากทุกคน ดังต่อไปนี้ 

การแพ็คสินค้าชั้นแรก  (Primary Packaging)

การแพ็คสินค้าชั้นแรก วัสดุที่ใช้ในการห่อหุ้มจะสัมผัสกับตัวสินค้าโดยตรงเพื่อป้องกันความเสียหายและการปนเปื้อน ยกตัวอย่างเช่น กล่องกระดาษแข็งที่บรรจุซองซีเรียล 

การแพ็คสินค้าขั้นที่ 2 (Secondary Packaging)

การแพ็คสินค้าชั้นที่สองจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราได้แพ็คสินค้าชั้นแรกไปแล้ว จุดประสงค์เพื่อสร้าง SKU ซึ่งหมายถึงหน่วยที่จำแนกประเภทสินค้า เพื่อติดตามสินค้าในคลังสินค้า วัสดุที่ใช้ประกอบไปด้วย กล่อง ถุง กระดาษ ตัวคั่น แผ่นรอง เป็นต้น

การแพ็คสินค้าเพื่อการขนส่ง 

ทีมงานในคลังสินค้าจะทำการแพ็คสินค้าชั้นที่ 3 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมจัดส่งในขึ้นตอนถัดไป การแพ็คสินค้ารูปแบบนี้จะช่วยป้องกันสินค้าไม่ให้เสียหาย จัดเก็บสินค้าได้สบายๆ และ จัดส่งสินค้าขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งการใช้พาเลทที่ทำมาจากกล่องกระดาษแข็งที่สามารถยืดและหดได้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง

ระบบการหยิบและแพ็คสินค้าในคลังสินค้า 

การหยิบสินค้าและแพ็คสินค้าในคลังสินค้ามีเพือดำเนินการตามคำสั่งซื้อ  เจ้าหน้าที่คลังสินค้าจะหยิบและบรรจุสินค้าลงหีบห่อ ซึ่งช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าที่สั่งซื้อได้รับการหยิบและแพ็คอย่างถูกต้องเพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าในขั้นตอนต่อไป

การออกแบบคลังสินค้าไม่ใช่เพียงแค่วางสินค้าไว้ที่ขั้นวางของ ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนของการเลือกหยิบสินค้าเพื่อจัดเก็บและการแพ็คสินค้าเพื่อจัดส่ง คุณจะต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของคลังสินค้า กระบวนการคลังสินค้า ปัจจัยภายนอก เป็นต้น 

การติดตั้งและออกแบบคลังสินค้าสำหรับการเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า

ในการออกแบบคลังสินค้า ควรเน้นไปที่จะทำอย่างไรให้การจัดการสินค้าและการดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่เก็บ-แพ็ค-ส่งราบรื่นและเร็วขึ้น เรามาดูข้อปฏิบัติในการติดตั้งและออกแบบคลังสินค้าสำหรับการเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า 

  • หาคลังสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของธุรกิจ 
  • เลือกคลังสินค้าที่มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนและทำให้การเก็บสินค้า จัดการออเดอร์ แพ็คเพื่อจัดส่งได้อย่างราบรื่น
  • สั่งซื้ออุปรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับใช้คลังสินค้า เช่น สะพานลำเลียงสินค้า และ รถยก
  • นำเทคโนโลยีทางด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์แบบอัตโนมัติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 
  • จ้างพนักงาน พร้อมฝึกอบรมความรู้เฉพาะทางให้กับพวกเขา 
  • หมั่นตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำ 
  • ทำเรื่องใบรับรองและใบอนุญาตของคลังสินค้าอย่างถูกต้อง
  • ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับมาตรฐานของคลังสินค้า

สิ่งที่ควรพิจารณาในขั้นตอนการหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า 

การปรับเปลี่ยนและพัฒนาระบบคลังสินค้าอยู่เรื่อยๆ เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการจัดการคลังสินค้า นอกเหนือจากการตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่เพียงพอในสต็อกสินค้า คุณจะต้องคิดหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพื้นว่างเพื่อลดต้นทุนด้วย

สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาในกระบวนจัดระบบคลังสินค้ามีดังนี้

การรับสินค้าเข้าคลังและจัดเก็บสินค้า

หากกระบวนการรับสินค้าเข้าคลังของคุณไม่ได้มาตรฐาน การควบคุมสต็อกสินค้าก็จะมีปัญหาตามมา แถมยังจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้กับคุณอีกด้วย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของคลังสินค้าจึงต้องตรวจสอบคุณภาพของสินค้าขาเข้าอย่างละเอียดและรวดเร็ว และจะต้องมีอุปกรณ์ในการจัดเก็บสินค้า เช่น ชั้นวางของ ถังขยะ แท่นวางของหรือพาเเลท และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยกน้ำหนัก ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ขนาด และปริมาตรของสินค้าด้วย 

การติดตามสินค้าภายในคลังแบบเรียลไทม์ 

เมื่อรับสินค้าเข้าคลังเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องมีระบบติดตามสินค้าคงคลัง เนื่องจากคุณจะได้ตรวจสอบได้ว่าสินค้าพร้อมจัดจำหน่ายหรือยัง การลงทุนกับซอฟเเวร์การจัดการสินค้าจะช่วยให้ธุรกิจรู้สถานะและจำนวนของสินค้าในคลังได้แบบเรียลไทม์ คุณจะรู้ได้ว่าตอนนี้จำวนสินค้าที่สต๊อกไว้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดหรือไม่ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการดำเนินงานคลังสินค้าอีกด้วย  

การเลือกคลังสินค้าให้เหมาะสม 

ระบบคลังสินค้าควรถูกออกแบบให้เจ้าหน้าที่เลือกหยิบสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อสินค้าเข้าคลัง คุณควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ วิธีการรับสินค้าเข้าคลัง วิธีเคลื่อนย้ายสินค้าไปรอบๆ คลังสินค้า การออกใบเอกสารบรรจุหีบห่อ (Picking List) เพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของรายการสินค้า วิธีที่พนักงานผู้หยิบสินค้าจะทราบตำแหน่งของสินค้าเพื่อเบิกสินค้า และการออกแบบระบบการเบิกสินค้าออกจากที่จัดเก็บให้แม่นยำและราบรื่น 

การจัดส่ง

คุณจะต้องมีพื้นที่ในคลังสินค้าที่เพียงพอที่จะสต๊อกสินค้าเพื่อจัดจำหน่ายตามความต้องการของตลาด ซึ่งทีมงานในคลังสินค้ามีหน้าที่เก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าให้ถูกต้องตามคำสั่งซื้อที่เข้ามา ดังนั้นคลังสินค้าจะต้องมีพื้นที่เพียงพอเพื่อรองรับสินค้าจำนวนมาก แต่ถ้าหากคุณมีผู้ให้บริการจัดการจัดส่งสินค้ามาดูแล การจัดส่งสินค้าจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สินค้าของคุณจะจัดส่งไปยังลูกค้าปลายทางอย่างรวดเร็วและปลอดภัย อีกทั้งลูกค้ายังสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย 

แนวทางปฏิบัติในการหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า

ลักษณะเฉพาะของการออกแบบคลังสินค้ามักขึ้นอยู่กับธุรกิจและลักษณะของสินค้าที่คุณต้องจัดการการทำงานภายในคลังสินค้า แผนคลังสินค้าจะต้องอยู่รอบๆ ประตูท่าเรือ เนื่องจากเป็นจุดที่ผู้ขนส่งจะรับและปล่อยสินค้า

ปรับและเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการหยิบสินค้า

แนะนำให้วางแผนเวิร์กโฟลว์และใช้ระบบหยิบสินค้า และปรับปรุงกระบวนการหยิบและบรรจุอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการดำเนินงานคลังสินค้า

เลือกระบบการจัดเก็บสินค้าคงคลังที่เหมาะสม 

ระบบการจัดเก็บสินค้าคงคลังเป็นโซลูชั่นที่จะช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเรื่องของการเก็บสินค้า บริการจัดการสินค้า และติดตามสินค้า คุณจะต้องพิจารณาว่าจะใช้ระบบการจัดเก็บสินค้ารูปแบบใดในราคาที่สมเหตุสมผล ตอบโจทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบสินค้า แพ็คสินค้า และจัดเก็บสินค้าให้กับธุรกิจคุณ 

ปัจจัยในการติดตั้งคลังสินค้า 

ควรออกแบบโครงสร้างคลังสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีพื้นที่ใช้สอยครอบคลุมทุกๆ ด้านสำหรับทีมงานและการดำเนินงานคลังสินค้า การออกโคงสร้างคลังสินค้ารูปแบบ One-way workflow เป็นวิธีที่ใช้งานที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการออกแบบพื้นที่ใช้งานของคลังสินค้า 

เข้าใจหัวอกคนทำงานในคลังสินค้า 

ทีมหยิบสินค้าและพนักงานคนอื่นๆ ที่ทำงานในคลังสินค้าของคุณเข้าใจเค้าโครงคลังสินค้าเป็นอย่างดีที่สุดและจะปรับปรุงให้เหมาะสมได้อย่างไร พูดคุยกับพวกเขาและรับข้อเสนอแนะเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้งานคลังสินค้าในแต่ละวันสะดวกยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการหยินสินค้าและแพ็คสินค้าเป็นอย่างไร? 

ในขั้นตอนการหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า จะมีขั้นตอนปฏิบัติพื้นฐานที่เหมือนกันไม่ว่าคุณจะจัดการในส่วนนี้ด้วยตัวเองหรือจ้างผู้ให้บริการทางคลังสินค้าและโลจิสติกส์ และนี่ก็เป็นขั้นตอนการหยิบและแพ็คสินค้า มาดูกันว่ามันทำงานอย่างไรบ้าง 

  1. เมื่อมีออเดอร์เข้ามา จะได้รับแจ้งทันทีที่ลูกค้าทำการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ 
  2. ทำฉลากไว้สำหรับเขียนข้อมูลการจัดส่ง 
  3. เจ้าหน้าในคลังสินค้าจะเลือกหยิบสินค้าเและแพ็คตามข้อมูลที่ระบุใบนฉลาก การหยิบสินค้ามีหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือก เช่น หยิบตามคำสั่งซื้อ หยิบตามหมวดหมู่ หยิบตามโซน หยิตามคลื่น หรือเลือกคลัสเตอร์ วิธีการหยิบสินค้าการเหล่านี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน 

  1. พนักงานผู้ดูเเลในส่วนนี้จะนำสินค้าที่ตรงตามสั่งซื้อไปยังสถานที่สำหรับแพ็คสินค้า เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าปลายทาง 

  1. จากนั้นเราจะได้พัสดุสำเร็จที่พร้อมทำการคัดแยกในขั้นตอนต่อไป
  2. เตรียมรถขนส่ง ขนย้ายพัสดุขึ้นไปจัดเรียงให้เรียบร้อยเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าปลายทาง 

ทำไมขั้นตอนการเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้าจึงสำคัญกับธุรกิจคุณ? 

เมื่อสักครู่เราได้พูดถึงข้อมูลพื้นฐานและประโยชน์ของการหยิบและแพ็คสินค้าไปแล้ว สงสัยไหมหล่ะว่าทำไมสองขั้นตอนนี้ถึงสำคัญกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซนัก เหตุผลมีดังต่อไปนี้ 

การจัดการที่เป็นระบบระเบียบ 

การหยิบสินค้าและแพ็คสินค้าช่วยให้คลังสินค้าเป็นระบบระเบียบ ช่วยพนักงานทำงานได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลา

การดำเนินเก็บ-แพ็ค-ส่งรรวดเร็วขึ้น

ระบบการหยิบและแพ็คสินค้าเป็นขั้นตอนที่สามารถช่วยส่งเสริมให้ของคุณแข็งแรงขึ้น หากคุณมีระบบการหยิบและแพ็คสินค้าที่ดี คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องออเดอร์ล้นมือ จัดส่งไม่ได้ทัน หรือความผิดพลาดในการจัดส่งสินค้าอีกเลย 

การดำเนินงานคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ความเป็นระบบระเบียบของคลังสินค้าและความรวดเร็วในการดำเนินงาน มาพร้อมกับประสิทธิภาพของการดำเนินงานภายในคลังสินค้า การเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้าส่งผลต่อการขนส่ง ซึ่งจะช่วยให้สินค้าส่งถึงลูกค้าปลายทางได้อย่างไร้ข้อผิดพลาด ปลอดภัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น

การจ้างผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าเพื่อเลือกหยิบสินค้าและแพ็คสินค้า 

เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นและมีออเดอร์เพิ่มขึ้น มันอาจจะถึงจุดที่คุณต้องพัฒนาการจัดการสินค้าและจัดส่งให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ (3PL) นั้นเป็นโซลูชั่นที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย    

เรามาดูคำจัดกัดกระบวนการการเก็บ-เเพ็ค-ส่งกันเถอะ 

  • ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า 
  • เบิกสินค้าออกจากคลังสินค้า 
  • เลือกกล่องหรือภาชนะที่เหมาะสมกับตัวสินค้าเพื่แพ็คตามคำสั่งซื้อ
  • จัดส่งสินค้าตามออร์เดอร์ให้กับลูกค้า 

เมื่อได้ยินคำว่า หยิบ แพ็ค และจัดส่งสินค้า ฟังดูเหมือนง่าย แต่ถ้าหากออเดอร์เข้ามาจนล้นมือก็ท้าทายเลยไม่ใช่น้อย ดังนั้นหากคุณมีเพื่อนคู่คิดทางด้านการจัดการคลังสินค้าและโลสิสติกส์ (3PL) มาช่วยเก็บ-แพ็ค-ส่งค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโตในตลาดอีคอมเมิร์ซได้อย่างก้าวกระโดด และด้วยระบบการจัดการที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย คุณจะสามารถติดตามสถานะของสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์ และลูกค้าของคุณก็จะสามารถติดตามสถานะการดำเนินการและการจัดส่งได้อีกเช่น 

ทำไมถึงต้องเลือกศูนย์บริการ 3PL Center ในการเลือกหยิบและแพ็คสินค้า? 

ลดต้นทุนโดยรวมของธุรกิจได้   

การจ้างบริษัท 3PL นั้นมีค่าใช้จ่ายก็จริง แต่ถ้าคุณเก็บ หยิบ และแพ็คด้วยตนเองย่อมมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า และอาจจะไม่ได้มาตรฐานหรือมีประสิทธิภาพเท่าที่ควรในระยะยาว เนื่องจากบริษัท 3PL เครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่กว้างขวางที่คุณจะได้อัตราค่าจัดส่งที่ถูกลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจของคุณได้นั่นเอง  

มีเชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าและโลจิสติกสN 

การมีผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ (3PL) เป็นเพื่อนคู่คิดจะช่วยให้การเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้ากลายเป็นเรื่องที่ง่ายและรวดเร็วทันที  เนื่องจากบริษัท 3PL ต่างๆ ที่ดูแลเรื่องการขายสินค้า จัดเก็บ แพ็ค และจัดส่งสินค้า และการดำเนินการด้านซัพพลายเชนอื่นๆ 

สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า 

เมื่อคุณมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้าช่วยเหลือ กระบวนการจัดการออเดอร์ของคุณก็จะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เนื่องจากเขามีระบบจัดการสินค้าและจัดส่งที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำ 

เมื่อผลประโยชน์ทั้งหมดข้างต้นรวมกัน ผลลัพธ์ก็คือกระบวนคลังสินค้าและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ มีประสิทธิภาพ และแม่นยำ ทำให้ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างๆ จัดส่งสินค้าถือมือลูกค้าปลายทางได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วทันใจ ความพึงพอใจที่ลูกค้ามีให้กับแบรนด์ของคุณก็จะเพิ่มขึน ดังนั้นการจ้างบริษัทจัดการสินค้าและจัดส่งจากภายนอกกองค์กช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และผลักดันยอดขายให้มากขึ้นนั่นเอง

ดูเรื่องค่าบริการและประโยชน์ที่ร้านค้าของคุณจะได้รับ พิจารณาให้ฉลาดก่อนที่จะตกลงปลงใจกับบริษัท 3PL นั้นๆ 

คุณสมบัติของบริษัทจัดการสินค้าและจัดส่งที่คุณจะต้องพิจารณามีดังต่อไปนี้ 

แหล่งที่ตั้ง 

พิจารณาจากแหล่งที่ตั้งของศูนย์บริการ เลือกสถานที่ที่ใกล้กับลูกค้าปลายทางของคุณเพื่อป้องกันการจัดส่งที่ล่าช้า 

ราคา 

ค่าบริการจะต้องเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐาน อีกอย่างเช็คดูให้ดีว่ามีค่าบริการที่จะเรียกเก็บเพิ่มหรือไม่ 

การบริการที่พวกเขามอบให้เรา 

เช็ดดูรายละเอียดของการบริการให้ดูว่าครอบคลุมความต้องการของธุรกิจของคุณหรือไม่ 

การช่วยเหลือและสนับสนุน

พิจาณาไปถึงการวางแผนรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช็คให้แน่ใจว่าบริษัท 3PL ที่เลือกมาจะดูแลคุณหากเกิดปัญหาในระหว่างการดำเนินการหรือไม่ 

ชื่อเสียง 

ก่อนที่จะจ้างบริษัท Fulfillment แนะนำให้ย้อนดูผลงา การบริการ รีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการจริงของเขาก่อน เช็คดูให้แน่ใจว่าเราไว้ใจเขาได้หรือเปล่า 

บทสรุป 

เติมเต็มธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วยบริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ หยิบและแพ็ค ช่วยคลายความกังวลให้กับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ หมดห่วงเรื่องแพ็คและจัดส่งไม่ทัน แต่จะต้องศึกษาการบริการให้ดีก่อนที่จะจ้างบริษัท Fulfillment 

Exclusive benefits to ace your e-commerce game this 2023 with Locad’s desk calendar!