Black Friday เป็นหนึ่งในเทศกาลแห่งการช้อปปิ้งครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี เหล่าร้านค้าก็พากันจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจขาช้อปปิ้งทั้งหลายที่ล้วนเฝ้ารอเวลานี้มานาน จุดเริ่มต้นของเทศกาลพิเศษนี้จะเริ่มขึ้นทันทีหลังวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งพูดได้เลยว่าเทศกาล Black Friday ลดกระหน่ำราคาพิเศษช่วงปลายปีจะทำให้เหล่านักช้อปใจฟูเลยแหละ
ที่มาของ Black Friday
Black Friday มีจุดเริ่มต้นมาจาสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และนับวันศุกร์หลังจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ตรงกับวันศุกร์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ผู้คนก็จะพากันมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาพิเศษ ร้านค้าก็จะมาข้อเสนอ ลด แลก แจก แถม ซึ่งก็จะมีส่วนลดมากถึง 50-90% กันเลยทีเดียว ของบางอย่างก็ราคาถูกแทบจะแจกฟรี
“Black Friday” เริ่มมาจาก 2 ประเด็นหลักๆ ดังนี้…
ประเด็นแรก : วันร้ายๆในทางเศรษฐกิจ
เดิมที Black Friday หมายถึง “วันร้ายๆในทางเศรษฐกิจ” ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน 1819s Jay Gould ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และ James Fisk นักธุรกิจด้านกิจการรถไฟ เรียกได้ว่าทั้งสองคือหัวโจกด้านการเงินแห่ง Wall Street พวกเขาพากันกันกว้านซื้อทองคำ เพื่อปั่นราคาทองคำในตลาด ทำให้ตลาดหุ้นร่วงกราวและพลเมืองสหรัฐฯตั้งแต่เจ้าสัวในตลาดหุ้นจนถึงชาวไร่ชาวนาต่างก็ล้มละลายกันไปทั้งประเทศ
ประเด็นที่สอง : วันศุกร์ที่มืดมนในเมืองฟิลาเดลเฟีย
ในเวลาต่อมา ผู้ก็ก็เชื่อกันว่าคำว่า Black Friday มีที่มาจากเหตุการณ์วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าที่เมืองฟิลาเดลเฟียในช่วงปี 1950s ผู้คนจำนวนมากต่างพากันออกมาแย่งกันซื้อของลดราคา ด้วยความจราจลนำไปความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาควบคุมสถานการณ์ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของคำว่า “Black Friday” หรือ “วันศุกร์มืดมน” นั่นเอง
ต่อมาในช่วงปลายของยุค 1980s เจ้าของธุรกิจและห้างร้านได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จัดโปรโมชั่นลดราคาเรียกลูกค้า จึงกลายเป็นเทศกาลแห่งการช้อปปิ้งครั้งใหญ่ 4 วันรวด จาก Black Friday ไปจนถึง Cyber Monday ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันนั่นเอง
Black friday 2023 ตรงกับวันที่เท่าไหร่
Black Friday เกิดขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ตรงกับวันศุกร์สัปดาห์ที่ 4 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ในปี 2023 นี้ เทศกาลนี้จะตรงกับวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน ว่าแต่ว่าเทศกาลพิเศษนี้มีทั้งหมดกี่วัน? คำตอบคือขึ้นอยู่กับร้านค้าว่าจะกำหนดเลย
สิ่งที่ทำให้ Black Friday เป็นที่นิยมในหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั่นก็คือการลดราคาสินค้าที่มากกว่า 50-90% นั่นเอง ซึ่งสินค้าที่นำมาลดราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ในบ้าน ของใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ความงาม ผลิตภัณพ์เพื่อสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ นี่เป็นโอกาสที่สำคัญที่คุณจะสามารถเพิ่มยอดขาย ล้างสต๊อกสินค้า และดึงดูดลูกค้าใหม่ คุณจะต้องหากลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาพิเศษนี้ให้ได้มากที่สุด เเบรนด์อีคอมเมิร์ซจะต้องเตรียมสต๊อกและออเดอร์ให้พร้อม มีระบบจดการสต๊อกและออเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และดึงข้อมูลออเดอร์จากทุกแพลตฟอร์มแบบเรียลไทม์ เพราะขาช้อปอีคอมเมิร์ซจะกดสินค้าของคุณใส่ตะกร้ารัวๆ ตุนไว้สำหรับเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ และตุนของใช้ไปจนถึงปีหน้าเลย
HI @regie Could you pls add CTA to our sign up form pls?
ทำไม Black Friday จึงสำคัญกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
อธิบายง่ายๆ ตามหลักความเป็นจริง ปลายปีเป็นช่วงเวลากอบโกยของร้านค้าและแบรนด์อีคอมเมิร์ซ หลายๆ เหตุการณ์น่าดีใจมีแนวโน้วที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ทั้งเงินเดือนออก โบนัสออก ผู้คนมีกำลังเงินที่จะซื้อสินค้า ไหนจะมีวันสำคัญที่จะตามมาอีก เช่น เทศกาลคริสต์มาส ต้อนรับปีใหม่ เป็นต้น
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น พวกเขามักเลือกความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลายเป็นสนามรบหลักของแบรนด์ต่างๆ ที่จะต้องจัดโปรแข่งกันในช่วง Black Friday เนื่องจากเป็นช่องทางที่ไม่มีเวลาปิด-เปิด ผู้ซื้อเข้าถึงได้ 24 ชั่วโมง ไม่เหมือนร้านค้าออฟไลน์ทั่วไป มีสินค้าหลากหลายให้พวกเขาเลือกซื้อพร้อมเปรียบเทียบราคาและคุณภาพของสินค้าเพียงแค่ปลายนิ้ว
บทสรุป
การทำความเข้าใจเอนทิตีทั้งสองนี้มีความสำคัญมากสำหรับเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การทำความเข้าใจระบบและกระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานของตนได้ พวกเขายังสามารถเข้าใจได้ว่ากระบวนการปฏิบัติตามคำสั่งใดจะดีที่สุดสำหรับธุรกิจของพวกเขา และช่วยให้พวกเขานำหน้าคู่แข่ง