Warehouse Logistics เป็นส่วนสำคัญของซัพพลายเชนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ครอบคลุมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลัง ดูแลตั้งแต่รับสินค้าเข้าคลังไปจนถึงจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทาง หากธุรกิจมีการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ การดำเนินงานเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าก็จะรวดเร็วและราบรื่น ซึ่งเป็นจุดที่แบรนด์ของคุณจะได้เปรียบแบรนด์อื่น และพร้อมส่งมอบสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น และลดต้นทุนการดำเนินงานภายในคลังสินค้า
เนื่องจากคลังสินค้าเป็นศูนย์กลางในการควบคุมการไหลเวียนของสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการซื้อและความต้องการขายในตลาด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้า
ว่าแต่ Warehouse Logistics คืออะไร และมีผลกระทบกับซัพพลายเชนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างไร?
Warehouse Logistics คืออะไร ?
Warehouse Logistics เป็นคำผสมระหว่างคำว่า คลังสินค้า และ โลจิสติกส์ คลังสินค้าจะดำเนินงาน
ในภาษาไทยเราเรียก Warehouse Logistics ว่า “โลจิสติกส์คลังสินค้า” ซึ่งมันคือการไหลทางกายภาพของสินค้าในคลัง ตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลังจนถึงการจัดส่ง เมื่อสินค้าเข้ามาในคลังสินค้า มันจะถูกนำไปจัดเก็บไว้ที่ชั้นวางสินค้าหรือพื้นที่ที่เตรียมเอาไว้ เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา พนักงานในคลังก็จะทำหน้าที่หยิบสินค้าไปแพ็ค และโหลดสินค้าออกจากคลังเพื่อจัดส่งไปยังลูกค้าปลายทาง
นอกจากนี้ โลจิสติกส์คลังสินค้ายังครอบคลุมไปถึง การไหลของสินค้าในคลังและควบคุมเวลาในการดำเนินงานเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้า ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการจัดการซัพพลาย้ชนนั่นเอง
จุดประสงค์ของการจัดการ Warehouse Logistics
Warehouse Logistics มีจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการตลาดของธุรกิจด้วยสินค้าที่ขายได้ในท้องตลาดอีคอมเมิร์ซ
- เพื่อขายสินค้าที่ตอบสนองความต้องของผู้บริโภคด้วยวัตถุดิบและแรงงานที่มีคุณภาพ
- เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานโดยไม่ลดทอนคุณภาพการบริการ
- เพื่อใช้พื้นที่จัดเก็บให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจคุณและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในบริษัทและพนักงานในคลังสินค้า
- เพื่อสต็อกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่ได้คาดการณ์เอาไว้
- เพื่อรักษามาตรการความปลอดภัย คุณภาพในการดำเนินงานในคลังสินค้า รวมทั้งความสมบูรณ์แบบของสินค้า
การดำเนินงานของ Warehouse Logistics
การดำเนินงานของโลจิสติกส์คลังสินค้ามีทั้งหมด 6 ประการ ดังนี้
รับสินค้าเข้าคลัง
นี่ก็เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการคลังสินค้า เป็นการโอนความรับผิดชอบให้กับคลังสินค้า โดยพนักงานที่รับผิดชอบในส่วนนี้จะตรวจสอบสินค้าก่อนนำไปจัดเก็บในพื้นที่ที่ได้เตรียมเอาไว้
เคลื่อนย้ายสินค้าไปยังพื้นที่จัดเก็บ
เมื่อรับสินค้าเข้าคลังและตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาต้องย้ายสินค้าจากท่ารับสินค้าไปยังสถานที่จัดเก็บคลังสินค้าที่เหมาะสม การจัดการที่ไม่เหมาะสมในขั้นตอนนี้สามารถขัดขวางประสิทธิภาพการทำงานของคลังสินค้าโดยรวมได้อย่างมาก ในทางตรงกันข้าม การทิ้งผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสมช่วยให้มั่นใจได้ถึงการจัดเก็บที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การติดตามและเรียกคืนสินค้าง่ายขึ้น ใช้พื้นที่ได้สูงสุด และความปลอดภัยของพนักงานและสินค้า
จัดเก็บสินค้า
ในกระบวนการจัดเก็บ สินค้าจะถูกจัดเก็บในตำแหน่งคลังสินค้าที่เหมาะสม การวางระบบการจัดเก็บสินค้าจะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพิ่มความสะดวกในการติดตามและเรียกคืนสินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน
หยิบสินค้าเมื่อมีคำสังซื้อเข้ามา
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในกระบวนการคลังสินค้า หารหยิบสินค้าจากพท้นที่จัดเก็บจะเริ่มหลังจากที่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ พนักงานในคลังจะค้นหาและดึงสินค้าตามคำสั่งซื้อ
แพ็คสินค้า
เมื่อหยิบสินค้าตามออเดอร์ของลูกค้าแล้ว พนักงานในคลังจะเคลื่อนย้ายสินค้ามาที่สถานีบรรจุสินค้า แพ็คสินค้าลงภาชนะบรรจุและติดฉลากเพื่อจัดส่งไปยังลูกค้าปลายทาง
จัดส่งสินค้า
การจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการโลจิสติกส์คลังสินค้า ขั้นตอนนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ ส่งสินค้าได้ถูกต้องตามคำสั่งซื้อ และส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้าตรงเวลาและปลอดภัย
พื้นที่ในการดำเนินงานของโลจิสติกส์คลังสินค้า
โลจิสติกส์คลังสินค้าเกี่ยวกับการรับสินค้าเข้าคลัง จัดเก็บสินค้าอย่างปลอดภัย แพ็คสินค้าตามคำสั่งซื้อ และจัดส่งสินสินค้าไปยังลูกค้าปลายทาง เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องปรับทุกแง่มุมของโลจิสติกส์คลังสินค้าให้เหมาะสมอ โดยพิจารณาตามปัจจัย ดังต่อไปนี้:
แผนผังคลังสินค้า
สิ่งที่คุณควรพิจารณาคือการออกแบบเค้าโครงสร้าคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ เช่น การหมุนเวียนของอุปกรณ์และสินค้าคงคลัง ระบบการจัดการคลังสินค้า และประสิทธิภาพในการทำงานของพนังงานในคลังสินค้า
การจัดการอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และ ระบบการจัดเก็บสินค้า
ในคลังสินค้า จะต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สามารถระบุตำแหน่งจักเก็บสินค้า เครื่องมือเคลื่อนย้ายสินค้า ระบบจัดการคำสั่งซื้อจากหลายๆ แพลตฟอร์ม และระบบจัดเก็บข้อมูล ที่บ่งบอก สามารถในการจัดเก็บ ประเภทสินค้า จำนวนสินค้าที่โหลดเข้าคลัง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม มีนวัตกรรมใหม่ให้คุณได้เลือกใช้ ยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เคลื่อนย้านสินค้าอัตโนมัติ
การหยิบหรือเตรียมสินค้าเมื่อมีออเดอร์เข้ามา
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งขึ้นตอนของโลจิสติกส์คลังสินค้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมคำสั่งซื้อ หรือการดึงสินค้าออกจากชั้นวางของ การจัดลำดับคำสั่งซื้อ เพื่อแพ็คและจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทาง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา ได้แก่ ทิศทางการเคลื่อนย้านสินค้า ความสูงของชั้นวางสินค้ามีผลต่อการหยิบสินค้า และวิธีการหยิบสินค้าที่เลือกใช้ หากระบบการหยิบสินค้าในคลังมีประสิทธิภาพ ลูกค้าก็จะได้รับสินค้าตรงตามคำสั่งซื้อและรวดเร็วทันใจ
การจัดการสต็อกและสินค้าคงคลัง
การจัดการสต๊อกสินค้านั้นสำคัญ หากคลังสินค้ามีระบบติดตามระดับสินค้าภายในคลังแบบเรียลไทม์ที่แจ้งทางแบรนด์ได้จะดีมาก เพราะคุณจะสามารถตัดสินใจเติมหรือลดสินค้าได้เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด พร้อมทั้งสามารถวางแผนจัดการคลังสินค้า ทรัพยากรบุคคล และองค์ประกอบอื่นๆ
ความปลอดภัยในคลังสินค้า
ปลอดภัยไว้ก่อน สำคัญที่สุด ความปลอดภัยของคลังสินค้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของงานด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ เพื่อให้ดำเนินงานเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้ามีความราบรื่น และเนื่องจากพนักงานในคลังปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยง ยืนเป็นเวลานาน หากคลังสินค้ามีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด พวกเขาจะได้ทำงานได้แบบไร้กังวล ควรมีกฏจราจรในคลังสินค้า และติดป้ายควรระวังเพื่อป้องกันอัตรายและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้คลังสินค้าควรหาวิธีบำรุงรักษาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก และมองหาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าอยู่เสมอ
วางแผนเพื่อพัฒนาระบบ Warehouse Logistics
การวางงานด้านโลจิสติกส์คลังสินค้าช่วยให้สินค้าถูกจัดเก็บ-แพ็ค-และส่งได้อย่างถูกต้องและราบรื่น อีกทั้งยังเป็นหน้าเป็นตาและความสำเร็จให้ธุรกิจของคุณอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ก็ต้องวางแผนให้ครอบคลุมในทุกๆ กระบวนการตั้งแต่นำสินค้าเข้าคลัง ตรวจเช็คสินค้า เคลื่อนย้ายสินค้าไปจัดเก็บในพื้นที่ที่ได้เตรียมเอาไว้ หยิบสินค้าเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา แพ็คและติดฉลาก และโหลดสินค้าออกจากคลังเพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าปลายทางในที่สุด
ในการวางแผนงานด้านโลจิสติกส์ ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึง 6 องค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ !
- ภาพรวมทั่วไปของกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์และผลกระทบทางธุรกิจ
- รายละเอียดกลยุทธ์ในการวางแผนโลจิสติกส์ และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าคงคลัง การจัดการออเดอร์
การขนส่ง และการบริการลูกค้า
- วัตถุประสงค์ของโลจิสติกส์คลังสินค้า ผลกระทบต่อตัวผลิตภัณฑ์ ต้นทุนสินค้าและบริการของธุรกิจ
- ระยะเวลาของแผนงาน และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
- เงินทุนและกำลังคน
ข้อควรพิจารณาในการวางแผนกลยุทธ์ด้านคลังสินค้า
ก่อนตั้งคลังสินค้า
- เตรียมเงินทุนให้เพียงพอในการติดตั้งคลังสินค้า
- คำนึงถึงค่าขนส่งและสถานที่ต้องของคลังสินค้า
- มีการออกแบบคลังสินค้าที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บและป้องกันอุบัติเหตุ
- ลงทุนกับอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม
- ว่าจ้างพนังงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์
หลังจากติดตั้งคลังสินค้า
- หากลไกหรือระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
- วิเคราะห์ความต้องการขอกลุ่มลูกค้า คาดการณ์ความต้องการของตลาด และจัดเทรนท์ที่กำลังมาแรงเพื่อทำการตลาด
- วางแผนค่าใช้จ่ายรายวัน
- วางแผนบริการคืนสินค้า
- เตรียมระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดสำหรับการดำเนินงานในคลังสินค้า
ประโยชน์ของการวางแผนคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
การวางแผนโลจิสติกส์คลังสินค้ามีจุดประสงค์เพื่อจัดส่งสินค้าที่ถูกต้องตามคำสั่งซื้อและจัดส่งให้กับลูกค้าปลายทางตรงเวลาและปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่ถูกมาดูกันว่า การวางแผนโลจิสติกส์คลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพให้อะไรกับธุรกิจคุณ
- ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์
- ลดความเสี่ยงทางการตลาด ช่วยคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลง เพื่อหาวิธีปรับธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ
- ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีผลกระทบกับกลุ่มลูกค้าได้ ในขณะเดียวกันก็รักษาประสิทธิภาพในส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย
อุปสรรคที่เกิดขึ้นในกระบวนการโลจิสติกส์คลังสินค้า และข้อควรปฏิบัติ
เมื่อมีข้อผิดพลาด งบก็จะบานปลาย และส่งผลให้การดำเนินงานของคลังสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้จัดส่งสินค้าให้ลูกค้าช้านั่นเอง อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้กระบวนการโลจิสติกส์คลังสินค้า มีดังนี้
คลังสินค้ารก ไม่เป็นระบบ พื้นที่ไม่พอ
ประสบปัญหาพื้นที่สต๊อกสินค้าไม่เพียงพอ แก้ที่ต้นเหตุ ย้อนกลับไปดูที่โครงสร้างและระบบการจัดการพื้นที่ในคลังสินค้า แก้ไขปัญฆาโดยวางสินค้าซ้อนขึ้นไปเป็นแนวตั้วภายใต้ความปลอดภัยเพื่อเพิ่มพื้นที่ในคลังสินค้า และเหลือทางเดินไว้ให้พนังงานในคลังได้ปฏิบัติงาน
การจัดการแรงงานและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบโครงสร้างคลังสินค้า แรงงานก็เป็นหนึ่งในเรื่องหน้าปวดหัวของคลังสินค้า หากคุณมีเทคโนโลยีมาช่วยแบ่งเบาภาระ ลดแรงงานคน ก็จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณเนื่องจากต้นทุนถูกลง ยกตัวอย่างเช่น ระบบการจัดเก็บสินค้า แยกประเภทและจัดหมวดหมู่สินค้าอัตโนมัติในคลังเพื่อให้ง่ายต่อการเบิกสินค้าเมื่อมีออเดอร์เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้าและทำให้การดำเนินงานรวดเร็วยิ่งขึ้น
การดำเนินงานในคลังสินค้าไมาเป็นระบบ
ด้วยสินค้าจำนวนมาก หลายรายการ และต่างประเภท สร้างความซับซ้อนและความผิดพลาดได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้การดำเนินงาน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Workflow ติดขัด ไม่ราบรื่น
บางทีก็เกิดการทำงานซ้ำซ้อน หรือหยิบออเดอร์ผิด แพ็คสินค้าไม่ตรงตามคำสั่งซื้อ ดังนั้นการลงทุนระบบการจัดการเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าอัตโนมัติจึงเป็นทางออกหนึ่งที่ธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงอุปสรรคและข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้
จัดการสินค้าในคลังไม่เป็นระบบ
ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพสร้างปัญหาให้กับธุรกิจของคุณได้ไม่น้อยเลย ยกตัวอย่างเช่น จัดเก็บสินค้าผิดที่ผิดทาง เกิดปัญหาสต๊อกขาดหรือสต๊อกเกิน ไหนจะพื้นที่ในคลังไม่พอสำหรับสต๊อกของอีก ดังนั้นถ้าคุณมีระบบคลังสินค้าอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือ การจัดเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าก็จะง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้นนั่นเอง
เมื่อเกิดปัญหา ทางที่ดีคือมให้รีบหาวิธีแก้ไข หรือหาเครื่องทุ่นแรงให้กับธุรกิจของคุณ เช่น กลไกจัดการสินค้าในคลังและออเดอร์ที่เข้ามารัวๆ จากหลายๆ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เครื่องสแกนบาร์โค้ด หรือ หาพาร์เนอร์บริษัท Fulfillment และบริษัทขนส่งสินค้า
การจัดการคำสั่งซื้อที่ไม่มีประสิทธิภาพ
การจัดการคำสั่งซื้อเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญของธุรกิจ เมื่อออเดอร์เข้ามารัวๆ ความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดก็จะมากขึ้น ส่งผลให้เสียเวลาและเงินทุน รวมถึงลูกค้าไม่พอใจ
ระบบการจัดการคำสั่งซื้อสามารถช่วยธุรกิจจัดการออเดอร์ที่เข้ามาพร้อมกันจำนวนมากได้ ทั้งประหยัดเวลาในการดำเนินงานเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้าและป้องกันข้อผิดพลาด
เมื่อเทศกาลมาถึง ปัญหาสิดค้าขาดสต๊อกก็เริ่มขึ้น
สินค้าบางอย่าง ขายได้ขึ้นอยู่ช่วงเวลาหรือเทศกาล ยกตัวอย่างเช่นช่วงปีใหม่ สินค้าบางตัวขายหมดเป็นเทนั้นเทท่า ดังนั้นก่อนเทศกาล คุณจะต้องเตรียมสต๊อกสินค้าเอาไว้ให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด
แนะนำให้มีระบบจัดการสต๊อกแบบอัตโนมัติที่สามารถบอกระดับสินค้าในคลัง คุณก็จะสามารถใช้ตัวเลขนี้เพื่อประเมิณความต้องการของตลาด และตัดสินค้าว่าจะเติมหรือลดสต๊อกสินค้านั่นเอง
ไม่มีระบบควบคุมความปลอดภัย
หากคลังสินค้าไม่มีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด สิ่งที่จะตามมาก็คือ ความเสียหายหรืออุบัติเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคลังสินค้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัยของพนักงานในคลังสินค้า
ติดตั้งระบบความปลอดภัยและจัดการจราจรภายในคลังสินค้าจะช่วยปกป้องพนักงาน อุปกรณ์ และสินค้าคงคลังจากอุบัติเหตุได้ ควรอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ เช่น ระบบสายพานลำเลียงสินค้า เทปกันลื่น ราวกั้น ระบบล็อค และตัวป้องกันแท่นวางสินค้า เป็นต้น ความสว่างที่เพียงพอช่วยให้พนังงานเคลื่อนย้ายสินค้าได้สะดวกสบายจะต้องมั่นใจว่าต้องมีความสว่างเพียงพอสำหรับการดำเนินงานภายในคลังสินค้า นอกจากนี้ เมื่อติดตั้งระบบความปลอดภัยแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบระบบความปลอดภัยเป็นประจำ
การวัดประสิทธิภาพโลจิสติกส์ของคลังสินค้า
มีหลายวิธีในการวัดประสิทธิภาพคลังสินค้า ตั้งแต่การใช้เครื่องมือวัดทางธุรกิจ ตลอดจนถึงการประเมินงบการเงิน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมที่สุดคือการวัด Key Performance (KPI) ของคลังสินค้า เพื่อทราบว่ากระบวนการคลังสินค้าบรรลุวัตถุประสงค์มากน้อยเพียงใด
KPI ของคลังสินค้าแต่ละรายการจะวิเคราะห์การดำเนินการเฉพาะโดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการหรือกระบวนการทำงานได้ดีเพียงใด ในการ KPI ของคลังสินค้า สิ่งที่จะต้องวัดประสิทธฺภาพมีดังต่อไปนี้
KPIs คลังสินค้า
- ความถูกต้องของสินค้าคงคลัง: วัดปริมาณสินค้าที่มีอยู่ในคลัง เพื่อพิจารณาความต้องการของตลาด
- ค่าดำเนินการของสินค้าคงคลัง: จำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ในการดำเนินงานคลังสินค้า
KPIs รับสินค้าเข้าคลัง
- ต้นทุนการรับสินค้าต่อรายการ: ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคลังสินค้าในการรับรายการสินค้าจากผู้ขาย
- รอบเวลาการรับสินค้า: เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการประมวลผลสต๊อกที่ได้รับแต่ละรายการ
KPI การสต๊อกสินค้า
- ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าคงคลัง: ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าคงคลังในช่วงเวลาหนึ่ง
- การใช้พื้นที่: เปอร์เซ็นต์ของสินค้าคงคลังของพื้นที่คลังสินค้าใช้พื้นที่ว่างทั้งหมด
KPIs การจัดเก็บสินค้าเข้าพื้นที่จัดเก็บ
- ความแม่นยำในการจัดเก็บ: เปอร์เซ็นต์ของสินค้าที่จัดเก็บอย่างถูกต้องในตำแหน่งคลังสินค้าที่กำหนดไว้
- Putaway cycle time: The average time it takes to put away a single item of the inventory.
- รอบเวลาการย้ายออก: เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการย้ายสินค้าคงคลังออกหนึ่งรายการ
KPIs ในการหยิบและแพ็คสินค้า
- ความสามารถในการหยิบสินค้า: จำนวนออเดอร์ที่ถูกหยิบต่อชั่วโมง
- ค่าใช้จ่ายในการหยิบและแพ็คสินค้า: ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเกี่ยวกับการแพ็คและติดฉลาก
KPIs การกระจายสินค้า
- เวลารอการสั่งซื้อ: เวลาเฉลี่ยที่คำสั่งซื้อจะไปถึงมือลูกหลังจากมีการสั่งซื้อ
- อัตราการสั่งซื้อย้อนหลัง: อัตราของคำสั่งซื้อของสินค้าที่ขาดสต๊อกไปแล้ว
การเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้าในระบบโลจิสติกส์
การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์คลังสินค้า ช่วยให้ปรับปรุงการทำงานในคลังสินค้า ลดต้นทุน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ
เรามีวิธีสร้างระบบโลจิสติกส์คลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้
- หาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับงานในคลังสินค้า เช่น สายพานลำเลียงและรถลากแท่นวางสินค้าหรือพาเลท เพื่อให้การเคลื่อนย้ายสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น
- ติดตั้งระบบ เช่น ระบบการจัดการแรงงาน และเครื่องมือสำหรับแจกแจงงานในคลังสินค้า
- มีระบบจัดการพื้นที่ใช้สอยภายในคลัง เพื่อจัดเก็บสินค้าที่เหมาะสมที่สุด
- จัดหาอุปกรณ์พกพาให้กับพนักงานใช้สื่อสารกันภายในคลังสินค้า
- ติดตั้งระบบเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการแพ็คสินค้า
- มีแอปพลิเคชั่นหรือระบบที่สามารถติดตามสถานะของสินค้าในคลังได้แบบเรียลไทม์
บทสรุป
โลจิสติกส์คลังสินค้าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของซัพพลายเชน ดังนั้นจะต้องวางระบบตั้งแต่นำสินค้าเข้าคลัง จัดเก็บในพื้นที่ที่เตรียมเอาไว้อย่างปลอดภัย แพ็คสินค้า ตลอดจนจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและราบรื่น หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเพียงแค่หนึ่งจุดก็จะส่งผลกระทบต่อขั้นตอนอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของคลังสินค้าทั้งหมดลดลง Locad Thailand หวังว่าสาระน่ารู้เกี่ยวกับคลังสินค้าในระบบโลจิสติกส์นี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่มีแผนต่อยอดธุรกิจ